“พีระพันธุ์” เผยพร้อมทำหน้าที่ “ผู้นำประเทศ” ถ้าประชาชนมั่นใจและให้โอกาสเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำการที่เข้ามาอยู่ในวงการการเมืองต้องพร้อมทำได้ในทุกตำแหน่ง ระบุการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาครั้งนี้มุ่งเป็นพรรคหลักเท่านั้น
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.65 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงเรื่องเร่งด่วนที่พรรคเตรียมแนวทางการทำงานไว้ หากได้รับโอกาสเข้าไปทำงานให้กับประชาชนว่า เรื่องแรก คือเรื่องการดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วย เรื่องปากท้อง ค่าครองชีพ การดูแลครอบครัวของพี่น้องประชาชน รวมถึงเรื่องลูกหลานจะได้รับการศึกษาหรือเรียนอย่างไร
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่สอง คือการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานของประเทศ ราคาน้ำมัน พลังงานสำรอง เรื่องที่สาม คือการสร้างโอกาสในการศึกษาที่ต้องเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน เพราะที่ผ่านมาพ่อแม่ต้องมากังวลเรื่องการเรียนของลูก โดยเฉพาะการฝากเด็กเข้าเรียน ซึ่งอนาคตของเด็กเหล่านี้ ทำไมต้องมาอยู่ที่เรื่องการเงินของครอบครัว ตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นและเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข
“นั่นคือสิ่งที่ผมและพรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบทำ ถ้าเรามีอำนาจทางการเมืองที่จะเข้าไปทำได้ก็อยากรีบทำทันที เพราะประชาชนเขาเดือดร้อน เขารอไม่ได้ ผมไม่อยากเสียเวลากับการเล่นการเมือง การถกเถียงกันของนักการเมืองเป็นเรื่องที่ประชาชนเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วยเลย สู้เอาเวลาไปหาทางช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่า” นายพีระพันธุ์ กล่าว
หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกตั้งขึ้นมาเป็นพรรคกระแสรองนั้น ตนคิดว่าถ้าใครที่ตั้งพรรคมาแล้ว คิดแค่จะมาเป็นพรรคกระแสรองเท่านั้น ก็อยู่บ้านไปดีกว่า อย่าคิดมาทำพรรคการเมืองเลย หากคิดจะทำพรรคแล้ว ต้องทำให้พรรคเป็นพรรคการเมืองหลักให้ได้ ตนคิดว่าหากทำพรรคแล้วไม่ได้คิดจะเป็นพรรคการเมืองหลัก นั่นคือไม่ได้คิดจะทำอะไร ก็แค่รอโอกาสไปร่วมเป็นรัฐบาลแล้วจะขอเป็นนั่นเป็นนี่ ซึ่งการคิดแบบนี้ไม่ใช่แนวคิดของพรรครวมไทยสร้างชาติ
“ส่วนที่คนมาถามผมว่า จะสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ผมขอตอบตรงนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะเลือกตั้งมายังไม่รู้เลยว่าผมจะอยู่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แล้วผมจะมาพูดได้ยังไงว่าจะสนับสนุนใคร แล้ววันนั้นใครจะเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งก็ยังไม่ทราบ แล้วจะมาพูดว่าผมสนับสนุนคนนั้นคนนี้มันพูดไม่ได้หรอก ยังไม่ถึงเวลา ผมว่าความจริงเรื่องอย่างนี้ก็รู้กันอยู่ เมื่อมันถึงเวลาวันนั้นค่อยว่ากัน เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันวันนี้ ถ้าพูดวันนี้ พอถึงเวลาจริงเขาบอกว่าเขาไม่เอาแล้วเขาเบื่อ เขาไม่เล่นต่อแล้ว เราจะทำยังไง ของแบบนี้ไว้ถึงเวลาจริงๆ แล้วค่อยว่ากัน” นายพีระพันธุ์ ย้ำ
ต่อข้อถามที่ว่า โอกาสที่ นายพีระพันธุ์ จะได้เป็นนายกฯ คนต่อไปหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การที่ตนได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่ทุกคนเข้ามาทำงานการเมือง ต้องพร้อมที่จะทำงานทุกตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ที่ตน อยู่ที่ประชาชน ถ้าประชาชนมั่นใจเชื่อว่าตนทำได้ เขาให้โอกาสตน ตนก็ต้องทำได้ในตำแหน่งนั้น การเข้ามาอยู่ในวงการการเมืองก็ต้องพร้อมที่จะทำให้ได้ในทุกตำแหน่ง
“การเมืองนี่เป็นเรื่องประหลาด ไม่ใช่ว่าเรียนกฎหมายต้องทำงานกฎหมาย เรียนหมอจะต้องทำงานหมอ เห็นไหมครับท่านรัฐมนตรีสาธารณสุขวันนี้จบหมอหรือเปล่า ทำไมท่านยังทำได้ เพราะท่านเป็นนักการเมือง ท่านก็ต้องพร้อมจะเป็น เพราะฉะนั้นผมเรียนกฎหมายก็ไม่ได้แปลว่า ถ้าไม่ใช่กฎหมายผมจะทำไม่เป็น ผมเป็นนักการเมือง ผมต้องทำได้ในทุกตำแหน่งหน้าที่ แต่การจะทำตรงไหนอยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสผมแค่ไหน ถ้าประชาชนมั่นใจว่าผมทำตำแหน่งผู้นำประเทศได้ ก็ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมก็เป็นได้” นายพีระพันธุ์ กล่าวในตอนท้าย