วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight'เสรีพิศุทธ์-ก้าวไกล'อัด'ชวน'ยับ ยื่นร้องสอบคุณสมบัติ'สิระ'ใหม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘เสรีพิศุทธ์-ก้าวไกล’อัด’ชวน’ยับ ยื่นร้องสอบคุณสมบัติ’สิระ’ใหม่

ฝ่ายค้านดาหน้าจวก “ปธ.ชวน” วางตัวไม่เป็นกลาง เมื่อรายละเอียดไม่ครบทำไมไม่แจ้ง “ผู้ร้อง” แต่กลับส่งเรื่องไป “ศาลรธน.” จนคำร้องถูกตีตก “เสรีพิศุทธ์” ผนึก “ก้าวไกล” เตรียมยื่นคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติ “สิระ เจนจาคะ” ใหม่อีกครั้ง

กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้อง ของพรรคเสรีรวมไทย เเละพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ร่วมลงชื่อกันทั้งหมด 62 คน โดยยื่นผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ว่าขาดคุณสมบัติในการเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 อนุ 10 ว่าเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกเกี่ยวกับทรัพย์สินซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยหลักฐานที่ยื่นให้นั้น เป็นหลักฐานที่นายสิระ เคยต้องโทษจำคุก 4 เดือน ที่ศาลแขวงปทุมวัน เมื่อ พ.ศ.2538 นอกจากนี้ยังความผิดตามกระบวนกฎหมายอาญาทำให้ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำเเหน่งส.ส. โดยศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลในการตีตกคำร้องดังกล่าวว่า เพราะชื่อ ส.ส.มีไม่ครบ 1 ใน 10

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ม.ค.64 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผนว่า ตอนแรกยื่นไป 62 คน แต่มี 2 คน รายมือชื่อไม่ตรง จึงถูกตัดออกไป เหลือ 60 คน ต่อมามี ส.ส.ขอถอนชื่อออกอีก 10 คน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จึงทำคำร้องส่งให้กับศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่ไม่แจ้งว่า เหลือส.ส.ที่ลงชื่อเพียง 50 คน ยิ่งไปกว่านั้นในตอนท้ายมี ส.ส. 2 คน มาขอถอนชื่ออีก แต่นายชวนก็ทำหนังสือส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้เหลือเพียง 48 คน ไม่ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดว่า ต้องใช้เสียง ส.ส. 1 ใน 10 คือ 48.7 คน ส่งผลให้คำร้องดังกล่าวตกไป

“ขอตั้งคำถามต่อนายชวน ว่าเหตุใดจึงไม่แจ้งกลับมายังผม ในฐานะผู้ร้อง ว่ารายชื่อเหลือเพียงเท่านี้ และเหตุจึงใช้อำนาจตามอำเภอใจ ตัด ส.ส.ที่ลงลายมือชื่อไม่เหมือน ออกไป โดยไม่ถามเจ้าตัวก่อน”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวและว่า ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุของ ส.ส. ที่ถอนชื่อไปทั้ง 12 คน แต่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจถูกขู่หรือมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือไม่ จึงขอให้ประชาชนพิจารณาเองว่า ใครทำอะไร ใครสนับสนุนใคร ให้นั่งหล่อเท่ในสภา ผู้เป็นประมุขนิติบัญญัติ ต้องดูว่า ใครดีไม่ดี ดูก็รู้อยู่แก่ใจ สงสารประชาชน ที่มี ส.ส.แบบนี้ ไม่มีคุณสมบัติที่เป็น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า จะส่งคำร้องเรื่องสถานภาพ ส.ส.ของนายสิระใหม่เร็วๆ นี้ โดยขณะนี้ได้ส่งหนังสือไปยังพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว และเชื่อว่าจะไม่ซ้ำรอยแบบเดิม แต่คงไปบังคับเขาไม่ได้ ซึ่งนอกจากยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ที่ผ่านมายังได้ยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีอาญากับนายสิระไปแล้ว

“คนพวกนี้ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น มาอ้างไม่รู้ ไม่เข้าใจ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง อย่ามาเป็น ส.ส. คนที่ถอนชื่อออก หากใครอยากมีปัญหากับผม ก็แสดงตัวออกมาได้เลย และยิ่งต่อต้านผมแบบนี้ เล่นเทคนิคแบบนี้ ผมจะตรวจทั้งสภาเลย จะตรวจประวัติให้หมด เพื่อเป็นของขวัญวันตรุษจีนและวาเลนไทน์ให้กับพี่น้องประชาชน”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

ด้าน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 9 ระบุอำนาจหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ การรับคำร้องดังกล่าว ต้องปฏิบัติตนเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เเละเหตุใดนายชวน จึงไม่เเจ้งต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ผู้ยื่นคำร้องให้ทราบก่อนว่า มีผู้ขอถอนรายชื่อ เเละรายชื่อไม่ตรงกับเอกสารดังกล่าว เพื่อจะได้มีการเเก้ไขก่อนที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในส่วนประเด็นของส.ส. 2 คน ที่ระบุว่ารายชื่อไม่ตรงกับเอกสารนั้น เหตุใดประธานสภาฯไม่เเจ้งต่อผู้ยื่นคำร้อง คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ หรือเหตุใดไม่เเจ้งต่อ ส.ส. 2 คน มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างไรที่ต้องรีบยื่นส่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยกรณีนี้ทำให้นายสิระ ได้ประโยชน์ เเต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ในฐานะผู้ยื่นคำร้องเสียประโยชน์ เเละในประเด็นต่อมา เหตุใดจึงถอนชื่อส.ส.2 คน ในวันที่ 29 ธ.ค.63 โดยไม่เเจ้งต่อผู้ยื่นคำร้อง เเละในประเด็นสุดท้าย เหตุใดเมื่อพรรคก้าวไกล ยื่นชื่อเพิ่ม 5 คน จึงไม่เร่งดำเนินการ จนเป็นเหตุทำให้ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องดังกล่าว

“เรื่องเช่นนี้ผมคิดว่า บุคคลที่ดำรงตำเเหน่งประธานสภาฯ น่าจะรู้ดี เเละการการะทำเช่นนี้ มีส่วนได้เสียหรือไม่ เพราะคุณสมบัติในการดำรงตำเเหน่ง ส.ส.เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องกลั่นกรองบุคคล ที่ทำหน้าที่ตัวเเทนของประชาชน ในฝ่ายนิติบัญญัติด้านจริยธรรม ความประพฤติ ว่าสมควรดำรงตำเเหน่งอันทรงเกียรติหรือไม่”นายธีรัจชัย กล่าวและว่า พรรคก้าวไกล ยืนยันที่จะยื่นรายชื่อส.ส. เเละรวมกับรายชื่อของส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง เพื่อส่งรายชื่อต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการดำรงตำเเหน่ง ส.ส.ของนายสิระ เพื่อรักษามาตรฐานของฝ่ายนิติบัญญัติในการทำหน้าที่ตัวเเทนของประชาชนต่อไป

ขณะเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ให้ความเห็นว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง วินิจฉัยสถานะ “สิระ เจนจาคะ” เพราะ…

1.จำนวน ส.ส.ที่เข้าชื่อกันต้องมีอย่างน้อย 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส. ที่มีคือ อย่างน้อย 49 คน จาก ส.ส. 487 คน
2.พรรคเสรีรวมไทย รวบรวมชื่อเบื้องต้นได้ 62 คน ส่งประธานชวน
3.มีการถอนชื่อ ครั้งแรก 10 ชื่อจาก ส.ส.เพื่อไทย ทำให้เหลือ 52 คน
4.มีการวินิจฉัยโดยประธานสภาว่า ลายมือชื่อไม่ตรงกับที่ให้ไว้ต่อสภา 2 ราย ทำให้เหลือ 50 ราย
5.มีการถอนชื่อรอบที่สอง จาก ส.ส. เพื่อไทยอีก 2 ราย ทำให้เหลือ 48 ราย
6.มีการส่งชื่อเพิ่มจาก ส.ส.ก้าวไกล 5 ราย แต่ไม่สามารถนำมารวมได้เนื่องจากเลยระยะเวลาแล้ว
7.ศาลรัฐธรรมนูญจึงตีตก ไม่รับคำร้องเนื่องจากมี ส.ส. เข้าชื่อกันไม่ถึง 1 ใน 10 คือมีเพียง 48 คน
8.ไม่มีอะไรตื่นเต้น ไม่มีอะไรต้องดีใจหรือเสียใจ ไม่มีความจำเป็นต้องต่อว่าต่อขานใคร ความจริงยังเป็นความจริง ไม่ครบก็ยื่นใหม่ได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img