“อนุทิน” ย้ำนโยบายพักหนี้คนเคยเจ็บจะเข้าใจ ชี้ประชาชนอยู่ไม่ได้รัฐก็อยู่ไม่ได้ ยันเป็นหน้าที่ของรัฐต้องรับใช้ประชาชน ด้าน “วัชรพงศ์” ลั่นหาเสียงต้องเต็มที่ มีของดี ต้องโชว์ แพ้ ชนะ ให้คนไทยตัดสิน แปลกใจตรรกะปชป.
วันที่ 30 ส.ค.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์กรณีเริ่มมีการโจมตีนโยบายพักหนี้ว่าไม่น่าเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ว่า คนที่มีรายได้ประจำและไม่เคยประสบวิกฤตทางการเงิน อาจไม่เข้าใจว่า การมีช่วงเวลาให้ได้ตั้งหลักนั้นสำคัญอย่างไรในการเดินต่อ แต่ตนเข้าใจดี เพราะเคยผ่านมาแล้ว เคยเจ็บมาแล้ว ประชาชนอยู่ไม่ได้รัฐก็อยู่ไม่ได้ การบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของรัฐในการรับใช้ประชาชน เมื่อบริหารเป็นก็เกิดประโยชน์ คนเดินต่อได้ ประเทศเดินต่อได้ เป็นนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยเสนอไป เมื่อพูดแล้วก็ตั้งใจจะทำ คนที่จะให้โอกาสไปทำคือประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์การหาเสียงที่ จ.สงขลาว่าจะตอกเสาเข็มสร้างความเจริญและเพิ่มจำนวนส.ส.ในภาคใต้หลายที่นั่ง ว่าเป็นการไม่เกรงใจพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มีประเด็น ไม่มีคำตอบครับ”
ด้านนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่นายวัชระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโจมตีว่าพรรคภูมิใจไทย หาเสียงไม่เกรงใจกัน กรณีประกาศตอกเสาเข็มชิง ส.ส.สงขลา ว่า ส่วนตัวงงกับเหตุผลของนายวัชระ เพราะนี่คือการหาเสียง คือการแข่งขัน เพื่อช่วงชิงคะแนนความไว้วางใจจากประชาชน ให้ประชาชนเลือกเราไปทำงาน แล้วมันจะต้องเกรงใจกันทำไม ถึงเวลาหาเสียง พรรคภูมิใจไทย ก็ต้องประกาศว่าเราทำอะไรสำเร็จ แล้วเราจะทำอะไรต่อ เรามีของดี ก็ต้องโชว์ นโยบายกัญชาทางการแพทย์ สำเร็จแล้ว GRABถูกกฎหมายสำเร็จแล้ว สะพานข้ามเกาะลันตา เซ็นก่อสร้างแล้ว ตัดเรืองผู้ค้ำปลดเงื่อนไขกู้เงิน กยศ. ทำสำเร็จแล้ว ขึ้นค่าแรง อสม. ทำได้แล้ว พัฒนาระบบคมนาคมพื้นที่ภาคใต้ ทำได้แล้ว ฟื้นการท่องเที่ยว เราทำสำเร็จแล้ว พรรคทำงานหนัก เพื่อให้มีผลงาน เราก็ต้องสื่อสารให้ประชาชนรับทราบ อย่าลืมว่า การหาเสียง มันก็คือการแสดงออกถึงความอาสาในการเข้ามารับใช้ประชาชน มันเป็นเรื่องดีงาม แล้วมันจะมานั่งเกรงใจกันทำไม เรื่องแบบนี้ พรรคภูมิใจไทยจัดเต็มแน่นอน แล้วถามว่าประชาชนจะได้อะไรกับการหาเสียงแบบครึ่งๆ กลางๆ กลัวๆ กล้าๆ เพราะมัวแต่จะไปเกี๊ยะเซี๊ยะกัน ถ้าจะทำแบบนั้น อย่ามาหาเสียง มันน่าละอาย พรรคภูมิใจไทยเราไม่ทำ เพราะ เราสู้เต็มที่ สู้ทุกประตูอยู่แล้ว
นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า แล้วเราก็หาเสียงด้วยนโยบาย เป็นการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ท่านก็แค่เอาผลงานของท่านมาแข่งกับพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนพื้นที่มานาน ท่านก็เอาผลงานมาโชว์เลย อยู่กันมาขนาดนี้ มันต้องมีเป็นกระบุง เอามาเทท่วมหัวผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยให้หายใจไม่ออกตายกันไปเลย หรือว่าท่านไม่มีจะโชว์ พอพรรคภูมิใจไทย ไปโชว์ มันก็เลยแทงใจดำท่านกระนั้นหรือ ซึ่งถ้าท่านอยู่มาหลายปี แต่ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ท่านจะกังวลว่าประชาชนจะเปลี่ยนจากจากท่านไปหาพรรคอื่น แต่ท่านจะโทษใครไม่ได้ ท่านต้องโทษตัวเอง แล้วที่ท่านมาโจมตีเรื่องสภา มันก็สะท้อนความจนตรอกของท่าน เพราะในขณะที่พรรคภูมิใจไทยโชว์ผลงานของพรรค ท่านดันไปพูดเรื่องอื่น แล้วเรื่องนั้น ท่านก็หวังแค่ดิสเครดิต แต่ไม่คิดว่าจะเอาผิดทางกฎหมายให้เป็นเรื่องเป็นราว ท่านสักแต่วิจารณ์ เล่นการเมืองน้ำเน่า กลับกัน ฝ่ายเอกชนต่างหาก ที่ไล่ฟ้องพวกท่านดะ เพราะเขาก็เซ็งกับการที่ท่านชอบให้ข่าวบิดเบือน เจตนาไม่บริสุทธิ์ เรื่องแบบนี้ ประชาชนดูท่านออกแบบทะลุปรุโปร่ง ว่า ท่านเข้าตาจนทางการเมือง แล้วท่านกำลังร้อนตัว เพราะภูมิใจไทย เรากำลังไล่จี้จุดอ่อนท่าน ว่าท่าน ไม่มีผลงาน ดีแต่พูด แล้วการที่จะมาบอกว่าเราไม่เกรงใจท่าน ท่านเคยถามตัวเองไหมว่า สมาชิกพรรคท่านเอง เคยเกรงใจกันเองหรือไม่ เห็นมีแต่เรื่องเล่นการเมืองในพรรคกันจนเละเทะ ฉาวโฉ่ จนคนในพรรคท่านทนไม่ไหว โบกมือลาพรรคท่านไปกี่คนต่อกี่คนแล้ว ก่อนจะมาสอนพรรคอื่นเรื่องเกรงใจ ท่านไปบอกคนของท่านก่อน
“ท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ท่านดำรงความสงบ ความนิ่ง เป็นเสาหลักของพรรค ผมเชื่อว่า ที่นายวัชระออกมาตีโพยตีพาย น่าจะทำโดยพลการ ซึ่งออกมาแล้ว มีแต่เสียกับเสีย มีอย่างที่ไหน มาบอกให้หาเสียงกันแบบเกรงอกเกรงใจ ทำแบบนั้น ไม่ต้องหาเสียง นอนอยู่บ้าน นายวัชระคงอยากทำผลงานให้ผู้ใหญ่ในพรรคเห็น แต่รีบ แต่ลน ดันมาโชว์เหตุผลเพี้ยนๆ ก็ขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคปรามๆ กันหน่อย อายแทน” นายวัชรพงศ์ กล่าว
