อ.ต.ก. ปลื้มสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของไทยเป็นดาวเด่นในงานสัปดาห์สีเขียว 2025เล็งผลักดันการขยายตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่สำหรับสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงไปยังต่างประเทศ
นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า จากนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มีการขับเคลื่อนการเปิดขยายตลาดสินค้าเกษตรในต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในการเพิ่มโอกาสทางการค้า ขยายช่องทางจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรนั้น อ.ต.ก. หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นแหล่งกลางในการซื้อขายผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสินค้าอื่น ๆ หรือสินค้าอุตสาหกรรมในครัวเรือน รวมทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภคเพื่อจำหน่าย และสร้างโอกาสในการจำหน่ายให้แก่พี่น้องเกษตรกรเข้าสู่ตลาดการค้าต่างประเทศได้มากขึ้น
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ อ.ต.ก. ได้นำสินค้าเกษตรไทยเข้าร่วมงาน International Green Week (IGW) เบอร์ลิน 2025 ณ Messe Berlin สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยในปีนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้จัดคูหาประเทศไทย ภายใต้ธีม Agri-Future: From Tradition to Sustainability เพื่อนำเสนอความเข้มแข็งและศักยภาพของผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมการเกษตร รวมทั้งนวัตกรรมอาหารของไทย และสร้างโอกาสยในการขยายตลาดสินค้าเกษตรในเยอรมนีและสหภาพยุโรป
นายปณิธาน กล่าวว่า ซึ่งในปีนี้ อ.ต.ก. ได้คัดสรรสินค้าเกษตรมูลค่าสูงมาร่วมจัดแสดงและประชาสัมพันธ์ภายในงานจำนวนมาก ได้แก่ สับปะรดภูแล มะม่วงน้ำดอกไม้ แก้วมังกรแดง ขนุน เสาวรส มะพร้าวพร้อมรับประทาน นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรฯ ชนิดแปรรูป ได้แก่ สับปะรดอบแห้ง ลำไยอบแห้ง มะม่วงเขียวฟรีสดราย มะม่วงน้ำดอกไม้ฟรีสดราย และมะพร้าวอบกรอบ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิจกว่า 27,500,000 บาท ซึ่งเป็นทราบกันอยู่แล้วว่างานสัปดาห์สีเขียวนานาชาติ หรือ International Green Week นั้น เป็นงานแสดงสินค้าทางการเกษตรนานาชาติชั้นนำด้านอาหาร เกษตรกรรม และพืชสวน ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป จัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2469 เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์การเกษตร และได้ปรับการแสดงสินค้าโดยให้ความสำคัญกับประเด็นต่าง ๆ ในปัจจุบันเพิ่มขึ้น เช่น การปกป้องสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจหมุนเวียน การอนุรักษ์ทรัพยากร และการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน การจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 89 โดยมีผู้เข้าร่วมจัดจาก 60 ประเทศ และรัฐต่าง ๆ ของเยอรมนี และมีผู้เข้าชมตลอดงานประมาณ 300,000 คน และจัดคู่ขนานกับการประชุมรัฐมนตรีเกษตรโลก (GFFA – Global Forum for Food and Agriculture)
นายปณิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมานั้น อ.ต.ก. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการตลาดตามแนวนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการการส่งเสริมตลาดให้แก่สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์พรีเมียมอัตลักษณ์พื้นถิ่นไทย ที่มีความโดดเด่นและหลากหลายเพาะปลูกตามกระบวนการโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาโดยตลอด เพื่อผลักดันการขยายตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่สำหรับสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงไปยังต่างประเทศ สนับสนุนและดำเนินธุรกิจภาคการเกษตรระหว่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบัญเกษตรกรและส่งเสริมให้สินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงของไทยสามารถเข้าสู่ตลาดธุรกิจระดับโลกได้มากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม