‘พฤกษา’ ตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรแห่งนวัตกรรม ประกาศความร่วมมือกับ ‘SCB’ ยกเครื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและชำระเงินครบวงจร นำเทคโนโลยีบล็อกเชน ในแพลตฟอร์ม B2P (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) มาใช้ในองค์กร
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาคอสังหาริมทรัพย์มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยการการจ้างงานผ่านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน เครื่องใช้ไฟฟ้า และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง เป็นต้น ดังนั้น กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจึงถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักในการทำธุรกิจของพฤกษา พฤกษาจึงร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ปฏิวัติกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในองค์กรผ่านแพลตฟอร์ม B2P
โดยนำประโยชน์ของเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ซึ่งแพลตฟอร์ม B2P สามารถนำเข้ามาเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้อยู่ภายในอยู่แล้ว จึงเอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทำให้ฝ่ายคู่ค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาทิ สามารถตรวจสอบสถานะใบแจ้งหนี้แบบได้แบบเรียลไทม์ ได้รับชำระเงินตรงตามกำหนด หรือในกรณีที่พบปัญหาของการออกใบแจ้งหนี้ คู่ค้าก็สามารถแก้ไขจุดที่ผิดพลาดได้ในระบบได้ทันที อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจให้กับคู่ค้า โดยช่วยลดเวลาเรื่องการเตรียมเอกสาร สร้างความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัย พร้อมตอบโจทย์ ยกระดับธุรกิจให้มีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้นในยุคดิจิทัล
การนำแพลตฟอร์ม B2P เข้ามาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) ของพฤกษาและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งหลังจากได้นำแพลตฟอร์ม B2P เข้ามาใช้พบว่า บริษัทฯ สามารถลดทรัพยากรและต้นทุนในด้านต่าง ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งช่วยให้การจ่ายเงินเป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว โปร่งใส และปลอดภัย ส่งผลดีต่อทั้งคู่ค้าและฝ่ายงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบในการสั่งซื้อสินค้าและทำรายการจัดซื้อจัดจ้าง
โดยเฉพาะฝ่ายบัญชีและการเงิน เพราะนอกจากเทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจากการทำให้แต่ละรายการถูกเข้ารหัสเแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ลดการใช้เอกสาร ทรัพยากรบุคคล และเวลา รวมถึงขั้นตอนในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ซึ่งคิดเป็นต้นทุนกว่า 4 ล้านบาทต่อปี พร้อมช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้องค์กรและคู่ค้า
ทั้งนี้ พฤกษาเชื่อว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้คู่ค้านำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการและสามารถบริหารการเงินให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น”