นายกฯ โต้ฝ่ายค้าน ถูกตรวจสอบตลอดร้อยคดี ไล่คนห้ามซื้ออาวุธไปขึ้น C130 อายุกว่า 40 ปีซ่อมแล้วซ่อมอีก ท้าใครจะมาเป็นนายกฯขอให้ทำให้ดีกว่า
เวลา 19.10 น. วันที่16 ก.พ.66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านอีกครั้งว่า ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ที่มีพอสมควร หลายอย่างเป็นข้อมูลที่ดีเพื่อปรับปรุงการทำงานต่อไป โดยตนและรัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ขัดแย้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ยุแยงตะแคงรั่ว หรืออยู่ข้างหลังการเคลื่อนไหวเหล่านี้คืออันตรายของประเทศไทย ทั้งนี้ตนยืนยันในความสุจริต และยืนยันว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากมีการทำผิดจะไม่มีการยกเว้น หลายท่านบอกว่าตนทำความผิดแต่ไม่ถูกตรวจสอบ ซึ่งตนถูกตรวจสอบมาตลอด ถูกฟ้องเป็นร้อยคดี 300-400 คดี ตนไม่ถูกตรวจสอบตรงไหน ส่วนเรื่องบัญชีทรัพย์สินตนก็ยื่นต่อป.ป.ช.ไปแล้ว แต่ป.ป.ช.ไม่เปิดเผยเอง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศต้องอาศัยเวลาและความร่วมมือ ความรักความสามัคคีถึงจะไปได้ และเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำวันเดียวเสร็จ ต้องมีแผนเป็นขั้นตอนไม่ใช่พูดอย่างเดียว ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มให้มีการปฏิรูปไปหลายเรื่อง ขอให้ทุกคนอดทนยอมรับการเปลี่ยนแปลง เรื่องที่กล่าวหามาจะตรวจสอบให้ทุกเรื่อง ไม่มีข้อยกเว้น ขณะที่การปฏิรูปกองทัพ ในด้านโครงสร้างมีการปรับลดกำลังพลกองทัพลงต่อเนื่องให้มีขนาดเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่วนคนที่บอกว่าไม่ต้องมีหรอกทหาร ถึงเวลามีเรื่องราวท่านก็ไปอยู่ชายแดนด้วยแล้วกัน อย่าพูดปากเปล่า นอกจากนั้นคนที่คัดค้านการซื้ออาวุธ ที่บอกว่าซื้อแล้วจะโกง จะทุจริต ตนว่าคิดแบบนี้ไม่ได้ ถ้าใครฌกงก็สอบไปติดคุกไป แต่คนที่คัดค้านนั้นกล้าขึ้นเครื่องบินซี 130 หรือไม่ เพราะมีอายุกว่า 40 ปีแล้ว วันนี้ซ่อมแล้วซ่อมอีกแล้วจะพร้อมรบได้อย่างไร ทั้งนี้การจัดซื้ออาวุธต้องมีการเตรียมพร้อมรบเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ที่กล่าวหาว่าซื้ออาวุธแล้วทุจริต ก็ไปหาหลักฐานมาว่าโกงตรงไหน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเรือหลวงสุโขทัย ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบหลายคณะ ให้เร่งหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว กำลังพลที่เสียชีวิตก็ช่วยเหลือทุกอย่างตามสิทธิที่พึงได้รับ ส่วนเรื่องการปฏิรูปตำรวจได้ผลักดันพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติเป็นกฎหมายปฏิรูปตำรวจครั้งสำคัญของประเทศ แบ่งสายงานชัดเจน จัดสรรงบเพียงพอ แต่งตั้งตามระบบอาวุโส สิ่งที่ตนได้ทำมาทำได้ดีกว่าแต่ก่อนหลายเรื่อง ใครจะมาเป็นนายกฯ ขอให้แก้ให้ดีกว่าที่ตนแก้แล้วกัน บางพรรคยังไม่รู้ด้วยว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือเป็นนายกฯ
ทั้งนี้ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์อภิปรายจบ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ขอหลักฐานการทุจริตมานั้น ตนจะนำหลักฐานทุจริตเรื่องเรือดำน้ำ และเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา จะนำผู้เสียหายไปพบนายกฯด้วย ขออย่าหลบหน้าแล้วกัน.