รองโฆษกเพื่อไทยแจงชัด ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือกลไกฟื้นเศรษฐกิจ ไม่เกี่ยวความมั่นคง ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ พร้อมหนุนแนวทางเจรจาผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC แทนการเผชิญหน้า ย้ำไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกหากไทยไม่ยินยอม
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.68 ที่พรรคเพื่อไทย นายพายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงต่อกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้จัดทำประชามติร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่จำเป็น เพราะเนื้อหาเป็นเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจ ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด
นายพายุ กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ในลำดับที่ 1 ของสภาผู้แทนราษฎร และจะเข้าสู่วาระพิจารณาในการเปิดสมัยประชุมวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ โดยที่ผ่านมาได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนทั้งในสภาและเวทีสาธารณะ และเมื่อผ่านวาระแรกแล้ว จะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกครั้งในชั้นกรรมาธิการ
“เราไม่จำเป็นต้องทำประชามติในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีตัวอย่างให้เห็นชัดเจน เช่น สนามม้า สนามมวย สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างรัดกุม ทั้งหมดนี้ก็เป็นกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน”นายพายุกล่าว
พร้อมกันนี้ นายพายุ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาด้วยว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการเจรจาผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ซึ่งเป็นช่องทางที่ยึดหลักการสันติภาพ และการเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกัน แม้การประชุมที่ผ่านมาอาจยังไม่สามารถบรรลุข้อยุติได้ แต่ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวก และเป็นเวทีที่ดีกว่าการเผชิญหน้าหรือใช้ความรุนแรง
เขายังย้ำว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมั่นคง ไม่ตอบโต้การยั่วยุทางการเมือง และจะไม่ยอมรับกระบวนการระหว่างประเทศใด ๆ หากไม่ได้รับความยินยอมจากประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำข้อพิพาทเขตแดนไปสู่การตัดสินโดยศาลโลก
“ขอยืนยันว่า การบริหารของรัฐบาลไทยในขณะนี้ มุ่งเตรียมการล่วงหน้าเพื่อไม่ให้สถานการณ์ชายแดนกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานและระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการบริหารที่รอบคอบ และยึดมั่นในหลักการเจรจาแบบทวิภาคี” นายพายุ กล่าวสรุป
