รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยอมรับไทม์ไลน์แก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน แม้เปิดประชุมวิสามัญก็ทำได้แค่ถึงวาระ 2 ก่อนติดเงื่อนไขเว้นระยะ 15 วัน ยืนยันหากยุบสภา ร่างทั้งหมดตกไปทันที ปัดรัฐบาลใช้การแก้รัฐธรรมนูญเป็น “ตัวประกันทางการเมือง”
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงความเป็นไปได้หากมีการยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ว่า ตามไทม์ไลน์ปัจจุบัน การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแทบไม่ทันอยู่แล้ว แม้จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ก็อาจทำได้เพียงเข้าสู่วาระ 2 เท่านั้น เนื่องจากการพิจารณาวาระ 3 ตามข้อบังคับต้องเว้นระยะอย่างน้อย 15 วัน จึงไม่สามารถดำเนินการต่อได้ทันกำหนด
นายภราดร ระบุว่า หากมีการยุบสภาจริง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจะตกไปทันที ไม่สามารถค้างสภาพิจารณาได้ และต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด
เมื่อถามว่า การยุบสภาจะถือเป็นการผิดข้อตกลง (MOA) กับพรรคประชาชนหรือไม่ นายภราดร กล่าวย้อนว่า ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้รัฐบาลต้องยุบสภาภายใน 120 วัน ผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ และจัดทำประชามติ ซึ่งตนเห็นว่ารัฐบาลได้ดำเนินตามกรอบที่กำหนดแล้ว แต่สถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลายังต้องรอความชัดเจนจากท่าทีของนายกรัฐมนตรี
ส่วนข้อสังเกตที่ว่ารัฐบาลอาจนำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาเป็น “ตัวประกัน” ทางการเมืองนั้น นายภราดร ปฏิเสธชัดเจนว่า “ไม่ครับ คนละเรื่อง”



















