“นฤตม์” เผยบีโอไอร่วมกับกกร.พร้อมให้เงินสนับสนุนนิติบุคคลที่มีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันรายละไม่เกิน 100 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าไทยว่า บีโอไอให้เงินสนับสนุนแก่นิติบุคคลที่มีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เกษตร อาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ การแพทย์ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยถ้าเป็นผู้ประกอบการทั่วไป มีเงื่อนไขลงทุนขั้นต่ำ 50 ล้านบาท แต่กรณีเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ขึ้นทะเบียน ในโครงการ SME ONE ID ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ต้องลงทุนขั้นต่ำ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศฯ ในการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ การวิจัยและพัฒนา (R&D) และการปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและขยายโอกาสการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการวิจัยและพัฒนา จะได้รับเงินสนับสนุน 50% ของเงินลงทุนจริงในโครงการ และหากเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพกิจการเดิมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งการปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมสีเขียว จะได้รับเงินสนับสนุน 30% ของเงินลงทุนจริงในโครงการ แต่หากมีการใช้เครื่องจักรที่ผลิตในประเทศไม่น้อยกว่า 30% สัดส่วนเงินสนับสนุนจะเพิ่มเป็น 50% ของเงินลงทุนจริงในโครงการ โดยเงินสนับสนุนสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อบริษัท ทั้งนี้ ต้องยื่นคำขอภายในเดือนมกราคม 2569 และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือน นับจากวันออกบัตรส่งเสริม
โดยเงินสนับสนุนในครั้งนี้ บีโอไอได้ทำงานร่วมกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อบูรณาการเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากการให้เงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ เป็นการเบิกจ่ายหลังจากที่ผู้ประกอบการได้ลงทุนตามเงื่อนไขแล้ว บางรายอาจมีปัญหาสภาพคล่อง สมาคมธนาคารไทยจึงเข้ามาช่วยพัฒนาสินเชื่อระยะสั้น (Bridging Loan) พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามโครงการ โดยบีโอไอจะร่วมกับ กกร. จัดเวิร์กช็อปเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจหลักเกณฑ์ของมาตรการอย่างถูกต้องและสามารถจัดทำข้อเสนอได้ตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด
