‘เท้ง’ ชี้ปม ‘นายกฯ’ส่งสัญญาณยุบสภา ก่อนเวลา หากรัฐธรรมนูญใหม่เดินหน้าได้ ก็ไม่มีอะไรเสียหาย พรรคประชาชนพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ รอผลโหวต 2 วันนี้ก่อนตัดสินใจยื่นซักฟอกหรือไม่
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.68 ที่รัฐสภา นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากนายกรัฐมนตรีไม่มีการยุบสภาตามที่ระบุเนื่องจากปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา ทำให้ต้องยื้อเวลาออกไป พร้อมๆ กับยังมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วยว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการบริหารสถานการณ์ชายแดน รวมถึงการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่มีความสำคัญกับประชาชน อย่างปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ทุกเรื่องเราทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านเต็มที่ดังนั้น จึงไม่อยากให้ไปผูกกันทุกเรื่องและตนมองว่าสิ่งที่สำคัญกับรัฐบาลตอนนี้คือการบริหารสถานการณ์ทุกอย่างอย่างถึงที่สุด และทำทุกอย่างตามกรอบของเอ็มโอเอไปด้วย ในฐานะพรรคฝ่ายค้านก็เดินหน้าตรวจสอบเต็มในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงลงมือแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่เช่นกัน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหน้าที่ของสภาในวันนี้เราก็ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เช่นกัน
เมื่อถามว่า วันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าอาจจะมีการยุบสภาเร็วกว่ากำหนด มองว่าเป็นการปูทางเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้พรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องถามที่ตัวนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวเชื่อว่ายิ่งยุบสภาเร็ว และตราบใดที่ทุกอย่างอยากเดินไปตามกรอบเอ็มโอเอ กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังเดินหน้าได้ และสามารถจัดทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ แล้วการจะยุบสภาเร็วขึ้นกว่ากรอบเอ็มโอเอที่ตกลงกันไว้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เสียหายอะไร

เมื่อถามว่าให้คะแนนนายกรัฐมนตรีในฐานะคนที่เคยโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีเท่าไหร่ถ้ามีคะแนนเต็ม 10 นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า คงไม่ได้เป็นลักษณะการให้คะแนน แต่ตนคิดว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบเรื่องต่อเรื่อง ประเด็นต่อประเด็น อย่างเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย –กัมพูชา ก็ได้บอกไปแล้วว่าน่าเป็นห่วงที่สุดคือท่าทีของนายกฯ ที่จะทำให้สายตานานาชาติมองว่าประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่รุกราน กระหายสงคราม
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นซักฟอกหรือไม่หรือฉากทัศน์ที่พรรคประชาชนวางเอาไว้เป็นอย่างไรนายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ต้องดูผลการพิจารณารัฐธรรมนูญใน 2 วันนี้วาระสองผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านไปแล้ววาระ 3 เป็นอย่างไร ซึ่งเราพูดชัดเจนหลายครั้งว่า ถ้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องสะดุดลง ไม่เป็นไปตามเอ็มโอเอที่ตกลงกัน เราก็พร้อมที่จะยื่น ตามารตรา 151 ทันทีทันที ส่วนเรื่องสว. 1 ใน 3 จะมีการสงวนการแปรญัติหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องรอดูที่การโหวต อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการเสียงข้างมกที่ออกมาก็ไม่ได้มีส่วนของเสียงส.ว. 1 ใน 3 แล้ว ทั้งนี้ การสงวนคำแปรญัตติก็เป็นสิทธิ์ที่วุฒิสภาบางส่วนแต่อย่างไรก็ตามต้องดูที่การสู้ในสภาใหญ่
ถามว่าจะมีการถอยเรื่องนี้หรือไม่ เพื่อให้ผ่านวาระ 3 นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ดูที่กันลงมติดีกว่าว่าถอยหรือไม่ถอย ตนเชื่อว่าพวกเราพร้อมที่จะเดินหน้าทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าจนถึงวันนี้มอกว่า คิดถูกหรือไม่ที่มีการโหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ดูในภาพรวมตอนนี้กระบวนการทุกอย่างยังเดินหน้าอยู่ เพราะฉะนั้นตราบใดที่ยังเป็นไปตามกรอบเอ็มโอเอ เชื่อว่าสิ่งที่พวกเราได้ตัดสินใจก็เป็นการตัดสินใจบนฐานประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ ไม่ได้ดูที่คะแนนนิยมของพรรคเป็นตัวตั้ง เราเห็นว่า 2 ปีที่ผ่านมา เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ตราบใดที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขกติกาสูงสุดของประเทศ ไม่ได้แก้ไขระบบการเมืองให้ดีขึ้น อนาคตจะเลือกตั้งอีกสักกี่ครั้งเราก็ไม่สามารถผลักดันประเทศไทยที่ก้าวหน้าไปกว่านี้ได้ จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจที่เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่พร้อมกับกับการเลือกตั้ง
ถามต่อว่าได้คุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐพงศ์กล่าวว่า ที่ผ่านมามมีการพูดคุยทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน และคุยกันหลายเวทีเป็นเรื่องปกติ แต่ยืนยันอีกว่าไม่เคยมีข้อตกลงใดๆ เพื่อที่จะบอกเขาว่าไม่ยื่น หรือยื่นดีกว่า ซึ่งเราพูดคุยกันมาโดยตลอดโดยให้เหตุผลต่อกันและกัน อย่างไรก็ตาม การจะยื่นซักฟอกก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่ายว่าจะยื่นไม่ยื่นอยู่ที่การตัดสินใจของเขา แต่ในส่วนของพรรคประชาชนคุยกันว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราก็พร้อมทำงานอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าคำว่า “พร้อมตรวจสอบอย่างเต็มที่” ในขณะที่นายณัฐพงศ์ก็บอกว่า มีพฤติกรรมอันตรายมีการบริหารประเทศบนความเสี่ยงเช่นนี้ จะมีการตรวจสอบได้มากกว่านี้ได้อย่างไร นายณัฐพงศ์กล่าวว่า ถ้าถึงเวทีที่ต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมา นอกจากการอภิปรายแล้วก็ต้องอยู่ที่การลงมติด้วย แต่เวลานั้นยังมาไม่ถึง คล้ายกับคำถามว่าสว. 1 ใน 3 จะถอยไม่ถอยดังนั้นคิดว่าอยากเพิ่งตั้งข้อสังเกตเกินเลยไปจากนี้ รอดูในสภาก่อนแล้วจะเห็นการทำหน้าที่ของเรา
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแล้วประเทศรอได้ขนาดนั้นหรือไม่ นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เราไม่เคยรอ เราตั้งคำถามผ่านกรรมาธิการ มีการเชิญรัฐมนตรีมาชี้แจงในกรรมาธิการแต่หลายหลายครั้งอาจจะไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรเรามีการสื่อสารผ่านประชาชน ไม่ใช่แค่ตั้งคำถามวิพากษ์วิจารณ์อย่างเดียว แต่การแก้ปัญหาเช่นน้ำท่วมภาคใต้ ก็ลงไปทำด้วยตัวเองด้วย ฉะนั้นตอนนี้ในทุกๆ ทางเราก็พยายามประคับประคองสถานการณ์ให้ดีกับประเทศมากที่สุด พร้อมกับทำหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่.



















