”บวรศักดิ์”ชี้แจงประชุมครม.ได้ตามปกติ มีเพียง 2 ห้ามทำโครงการใหม่ที่ผูกพัน ครม. ชุดใหม่ และห้ามนำทรัพยากรของรัฐ พร้อมนัดหารือกกต.คนละครึ่งพลัส เฟส 2 กระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมทำได้หรือไม่
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภา ว่า ไม่มีเหตุที่จะต้องเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ แต่จะเป็นการประชุม ครม. ตามปกติในวันที่ 16 ธ.ค.
เมื่อถามถึงแนวทางปฏิบัติในฐานะรัฐบาลรักษาการ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า คำว่ารัฐบาลรักษาการเป็นคำที่นักวิชาการใช้ แต่ในรัฐธรรมนูญไทยไม่มี รัฐบาลนี้ยังมี ครม. ที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ เข้ารับหน้าที่หลังการเลือกตั้งทั่วไป โดยมีอำนาจเหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งเรื่องความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่มีสิ่งต้องห้ามทำ 2 ข้อคือ ห้ามทำโครงการใหม่ที่ผูกพัน ครม. ชุดใหม่ และห้ามนำทรัพยากรของรัฐ ทั้งบุคคลและยานพาหนะไปใช้เพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง
“ส่วนบางเรื่องที่ ครม.พูดไว้ก่อนที่จะยุบสภา เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะอนุมัติให้ทำได้หรือไม่ และเรื่องการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ เพื่อช่วยฟื้นฟูหาดใหญ่และบอกกล่าวว่าหาดใหญ่กลับมาเป็นปกติแล้ว เพื่อส่งสัญญาณถึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียให้กลับมาเที่ยวได้ช่วงปีใหม่ที่จะเข้ามามากที่สุด ตรงนี้ไม่ใช่การหาเสียง แต่เป็นสิ่งที่นายกฯ พูดไว้กับพี่น้องชาวสงขลาและหาดใหญ่ ใน ครม.เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าจะไปจัดประชุม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ ก็ต้องทำได้”
นอกจากนั้น หากจะต้องทำ มี 2 เรื่องที่ต้องขอ กกต. คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและการใช้งบประมาณ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น นอกนั้นมีอำนาจเหมือนเดิมทุกประการ รวมถึงเรื่องความมั่นคง และวันนี้ยังสามารถประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ เช่นเดียวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังมีเหมือนเดิม และการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยก็ยังเหมือนเดิม แต่ถ้าต้องใช้งบกลางเพิ่มจะต้องขอ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ ย้ำว่าคำว่ารักษาการเป็นคำทางวิชาการ ไม่ต้องกังวลอะไร โดยรัฐบาลจะนัดประชุมกับ กกต. ในวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อหารือถึงเรื่องเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงการจัดทำคำถามประชามติ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า จะมี 2 ข้อ คือ 1.คำถามว่าท่านเห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ โดยสภาลงมติส่งมาที่ ครม.4 ฉบับ ให้ ครม.เลือก และ2. ครม.สามารถถามเองได้ว่าท่านจะเห็นชอบหรือยกเลิกเอ็มโอยูปีไหนหรือไม่ และให้อ่านกฎหมายดีๆ ว่าการกำหนดวันเลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้อง 60 วัน เป๊ะก็ได้ เพราะมาตรา 11 วรรคสุดท้าย พระราชบัญญัคิว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พูดไว้ชัดว่าถ้ามีความจำเป็นด้วยเหตุผลเรื่องงบประมาณหรืออะไร ครม. สามารถกำหนดวันใหม่ได้ สมมติเลือกตั้งวันที่ 8 ก.พ. 69 จะห่าง 2 วัน เหลือเพียงแค่ 58 วัน ถือว่าไม่มีอะไรต่าง และกฎหมายให้อำนาจทำได้.



















