วันอังคาร, ตุลาคม 1, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ประเสริฐ”ชี้“ก.ก.”ต้องปรับกลยุทธ์เอง ไม่มีแผนสำรองหากรอบแรก “พิธา”ไม่ผ่าน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ประเสริฐ”ชี้“ก.ก.”ต้องปรับกลยุทธ์เอง ไม่มีแผนสำรองหากรอบแรก “พิธา”ไม่ผ่าน

ประเสริฐ’ ชี้ ‘ก้าวไกล’ ต้องพิจารณาปรับกลยุทธ์เอง เพื่อประโยชน์ในการโหวตนายกฯ ระบุ ไม่มีแผนสำรองหากรอบแรก ‘พิธา’ ไม่ผ่านโหวต

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 13 กรกฎาคม ว่ามีความกังวลท่าทีของ ส.ว.หรือไม่ว่า เท่าที่ฟังมีแค่ ส.ว.บางส่วนที่แสดงความคิดเห็น แต่เข้าใจว่า ส.ว.ส่วนมากยังสงวนท่าที คิดว่าการตัดสินใจของ ส.ว.จะตรงกับความต้องการของประชาชน

เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในเงื่อนไขมาตรา 112 ของ ส.ว.เพื่อผลักดันให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค ก.ก. เป็นนายกรัฐมนตรีตามเจตนารมณ์หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรค ก.ก.ซึ่งเป็นพรรคหลักต้องพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งเป็นข้อเสนอของ ส.ว.หลายคน ส่วนในนามพรรคร่วม 8 พรรค เคยพูดคุยเรื่องนี้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีความชัดเจนระหว่าง 8 พรรคร่วม ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่พรรค ก.ก.ต้องไปปรับกลยุทธ์เพื่อประโยชน์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า ท่าทีของ ส.ว.ชัดเจนเรื่องมาตรา 112 ทำให้มีการคาดการณ์ว่านายพิธาจะไม่ได้รับเลือกในรอบแรก นายประเสริฐกล่าวว่า หากฟังจากแกนนำพรรค ก.ก.จะเห็นชัดเจนว่าเขามั่นใจว่าจะผ่าน พรรค ก.ก.ให้ความมั่นใจมาโดยตลอดว่า ส.ว.จะสนับสนุน ก็ขอให้ดูการโหวตก่อน

เมื่อถามว่า พรรค พท.ได้เดินสายขอความร่วมมือกับ ส.ว.ด้วยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า พรรค พท.ช่วยเป็นบางส่วน แต่ตัวหลักเป็นของพรรค ก.ก.เอง ฉะนั้น แกนนำทั้ง 8 พรรคหากใครรู้จัก ส.ว.ท่านใดก็พยายามทำความเข้าใจอยู่ แต่ส่วนใหญ่คือพรรค ก.ก.ต้องเดินเป็นหลัก

ถามย้ำว่า พรรค พท.ขยับช่วยในเรื่องนี้เยอะหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ก็เยอะอยู่ ในช่วง 2-3 วันนี้ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะเหลือเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็จะเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว

เมื่อถามว่า โค้งสุดท้ายมีอะไรแนะนำพรรค ก.ก.หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า พรรค ก.ก.มีความสามารถอยู่แล้ว แต่อยากแนะนำให้ทุกฝ่ายสร้างบรรยากาศในการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะฝั่ง ส.ส. ส.ว. หรือแม้แต่ประชาชน ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับเป็นหลักในการพิจารณา

เมื่อถามว่า 8 พรรคร่วมมีแผนสำรองหรือไม่ หากการโหวตรอบแรก นายพิธาไม่ได้รับเลือก หรือกรณีที่มีการเสนอชื่อแข่งแล้ว ส.ว.ไปสนับสนุน นายประเสริฐกล่าวว่า เราไม่มีแผนสำรอง หากในรอบแรกไม่ผ่านคงต้องหันกลับมาคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่าอาจจะมีพรรคที่เคยเป็นขั้วเก่าของรัฐบาลเสนอคนแค่นั้น หากฟังจากการให้สัมภาษณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะเห็นชัดเจนว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็เบาใจได้ระดับหนึ่ง แต่การเมืองก็เกิดอะไรขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องที่แกนนำทั้ง 8 พรรคร่วมต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ส่วน กระแสงูเห่า ยังไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าในส่วนของพรรค พท.ไม่มี เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าในอดีตที่ผ่านมาใครเป็นงูเห่า เลือกตั้งแต่ละครั้งสอบตกหมด ซึ่งครั้งนี้พรรค พท.คัดเลือกสมาชิกที่มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ จึงมั่นใจว่างูเห่าจะไม่เกิดขึ้น และในวันโหวตนายกรัฐมนตรีเราจะมีการกำชับไปยัง ส.ส.แต่ละท่าน รวมถึงวิธีการโหวตก็เป็นในทางที่เปิดเผยไม่ได้เป็นในทางลับ จึงเชื่อว่างูเห่าจะไม่กล้า หากใครทำเท่ากับฆ่าตัวเอง

เมื่อถามว่า หากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 2-3 ครั้งแล้ว นายพิธายังไม่ผ่าน จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือจะหนุนนายพิธาไปเรื่อยๆ นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ 8 พรรคต้องกลับมาคุยกันเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นไหนๆ ก็เดินทางมาด้วยกันแล้ว ไม่ว่าจะโหวตกี่ครั้งก็ต้องกลับมาคุยกันก่อน

เมื่อถามว่า พรรค พท.มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ได้สะกิดบอกพรรค ก.ก.หรือไม่ว่าเรายังมีอีก 3 คน เพื่อจะได้มีนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตย นายประเสริฐกล่าวว่า พรรค ก.ก.ทราบอยู่แล้วว่าพรรค พท.มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ส่วนพรรค ก.ก.มีคนเดียว แต่เรายังไม่ได้คุยกันในประเด็นนี้และไม่ได้เตรียมแผนสำรองแต่อย่างใด ให้รอดูหน้างาน ตามขั้นตอนว่า 8 พรรคร่วมจะมีความคิดเห็นร่วมกันอย่างไรในการเดินหน้า

เมื่อถามว่า หากเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้อาจนำไปสู่การตั้ง รัฐบาลแห่งชาติ นายประเสริฐกล่าวว่า คงไม่เดินทางไปถึงจุดนั้น เชื่อว่าสุดท้ายแล้วประเทศมีทางออก การเป็นรัฐบาลแห่งชาติ หากไม่มีฝ่ายค้านก็ไม่มีอำนาจถ่วงดุล ซึ่งไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะใช้ดุลพินิจในการตัดสินเรื่องนี้ได้ และคงไม่เกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img