วันอังคาร, ตุลาคม 1, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ภูมิธรรม”ย้ำอีกรอบ “พท.”ดัน “พิธา”นั่งนายกฯ แนะก่อนวันโหวต8พรรคควรหารือกัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ภูมิธรรม”ย้ำอีกรอบ “พท.”ดัน “พิธา”นั่งนายกฯ แนะก่อนวันโหวต8พรรคควรหารือกัน

ภูมิธรรม’ ยัน พท.’ จับมือพรรคร่วม ดัน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ มั่นใจ ส.ว.หลายคนหวังดีต่อประเทศ แนะก่อนวันโหวตนายกฯ 8 พรรคควรนัดหารือกัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ก.ค.ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า เราได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ต้นว่าเรามีทิศทางอย่างไร สิ่งที่ออกมาตั้งแต่การโหวตเลือกประธานสภาฯ ทำให้เรารู้ว่ามีแนวทางอย่างไร ชัดเจนว่าเป็นไปตามความมุ่งหวังของเรา ซึ่งเรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่า 8 พรรคร่วมจะจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้สำเร็จ เสียงของพรรค พท.ทั้งหมดจะไปตามทิศทางที่คุยกันไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อมไปในทางเดียวกันอีกครั้ง โดยจะมีการจัดสัมมนาส.ส.ก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีสัก 2-3 ครั้ง คาดว่าจะเป็นวันที่ 10-12 กรกฎาคม อาจจะเป็นที่ทำการพรรคหรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นการเตรียมการทำงานให้กับส.ส.ที่จะเข้าไปทำงานในสภาฯ และเตรียมเรื่องการประสานงานทั้งหมด อาจจะมีผลที่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องให้ส.ส.อยู่ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการทำความเข้าใจในทิศทางที่จะเดินไปร่วมกันข้างหน้า

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขณะที่ช่วงนี้เป็นช่วงของระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านไปสู่การแก้ไขจุดอ่อนต่างๆ ที่พรรค พท.เคยมี เพื่อเดินไปข้างหน้าให้ได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับกระบวนการให้เป็นไปในทิศทางใหม่ รวมถึงการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ในอนาคตจึงจะถือโอกาสพูดคุยในการสัมมนาครั้งนี้

เมื่อถามว่า 8 พรรคร่วมต้องมีการพูดคุยก่อนวันลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรค พท. เราได้ประสานงานกันไปเบื้องต้นแล้วว่าทิศทางที่ชัดเจนคือ เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน ดังนั้น เราจะต้องมีเวลาประเมินสถานการณ์ร่วมกันก่อนวันโหวตว่าจะมีทิศทางอย่างไร และจะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนใด ขณะนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.ได้ประสานไปยังนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่ามีความจำเป็นต้องมีหรือไม่

“ถ้ารู้สึกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล ก็อาจไม่ต้องประชุมหารือร่วมกัน แต่ความเห็นส่วนตัวได้พูดคุยกันสักนิดก็คงดีเผื่อจะได้เห็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เหมือนเป็นการทำความเข้าใจสถานการณ์ เพื่อจะได้ไปทำความเข้าใจกับส.ส.ในพรรคของตัวเองให้เข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน 8 พรรคร่วมจะได้เดินไปในทิศทางเดียวกัน” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามถึง การแถลงข่าวที่โรงแรมแลงคลาสเตอร์เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในบันทึกข้อตกลงร่วมกันมีอยู่ 1 ข้อที่จำเป็นจะต้องมีการช่วยสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในการเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มความสามารถ จะต้องไปถึงจุดไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญจริงๆ คือเรื่องของเจตนารมณ์ เรากำลังแสดงเจตนารมณ์กับแนวคิดความมุ่งมั่นของเราว่าเราจะจับมือกันอย่างมั่นคง และ 8 พรรค ก็จะแสดงความมั่นใจให้กับประชาชนทราบว่าเราจะร่วมมือกันที่จะผลักดันให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีพรรค ก.ก. เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและผลักดันให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจตจำนงที่มุ่งมั่นชัดเจนให้ประชาชนมั่นใจ ในการร่วมมือของ 8 พรรคร่วม ส่วนจะเดินหน้าไปอย่างไรก็ต้องดูตามสถานการณ์ โดยให้พรรค ก.ก. เป็นผู้ประเมินและตอบคำถาม อย่างไรก็ตาม หากมีประเด็นอะไรที่จะเกิดขึ้นก็ต้องมาหารือกันใน 8 พรรคร่วมเพื่อช่วยกันคิดและผลักดัน

เมื่อถามถึง กรณีท่าทีของส.ว.ในการลงมติหากการโหวตนายพิธาครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งต่อไปควรจะเป็นบุคคลเดิม หรือครั้งแรกก็น่าจะพอทราบผลแล้วว่าได้หรือไม่ได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เราชัดเจนคือร่วมมือกันผลักดันให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีประสบความสำเร็จ จึงไม่อยากคิดคำว่าถ้า เพราะเรามั่นใจและนายพิธาก็แสดงความมั่นใจว่าได้มีการพูดคุยกับส.ว.หลายๆ คนแล้วก็ยังเชื่อมั่นว่าส.ว.จะเข้าใจในปัญหาบางอย่างที่อาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือมีอะไรที่ติดค้างได้พูดคุยกันไปหมดแล้ว พรรคพท.ก็เชื่อมั่น ขณะนี้พรรค พท.จึงไม่มีความคลางแคลงใจ และพร้อมผลักดันเต็มที่ เพียงแต่ว่าในแต่ละพรรคหากจะมีอะไรส่งเสริมสนับสนุนหรือผลักดันให้มากขึ้นนั้น ก็พร้อมที่จะทำเต็มที่ต่อไป

นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยในส่วนของรายละเอียดเราเชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะหลายอย่างที่เป็นปรากฏการณ์ที่พรรคฝั่งขั้วรัฐบาลเดิมมีแนวโน้มถูกวิจารณ์ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก โดย 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่พร้อมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะอยากให้เสียงของประชาชนสามารถเดินหน้าไปได้ อย่างการลงมติเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งก็มี ส.ส.ของพรรคถท.ที่ไม่ลงมติสนับสนุนให้รองประธานสภาฯ ที่มาจากพรรค ก.ก.ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าคิดอย่างไร

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพรรค ก.ก.ว่าจะตัดสินใจและเลือกแบบไหน ซึ่งมีทางเลือกอยู่หลายทาง เพราะยังมีหนทางที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย ทั้งเรื่องเสียงสนับสนุนจากส.ว. 64 เสียง หรือขอให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมสนับสนุนให้ 8 พรรคร่วมโดยไม่ต้องเข้ามาร่วมในคณะรัฐมนตรีด้วยก็ได้ ซึ่งอยู่ที่พรรค ก.ก.ตัดสินใจ และร่วมหารือกันใน 8 พรรค

เมื่อถามว่า การพูดคุยกับส.ว.พรรค พท.ได้เข้าไปช่วยพูดคุยด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคพท.ช่วยพูดคุยกับส.ว.บางคนที่รู้จัก และอาจจะมีที่แนะนำให้พรรคก.ก.ไปพูดคุยทำความเข้าใจด้วยตัวเอง แต่ภารกิจหลักต้องเป็นพรรคแกนนำ ซึ่งยอมรับว่ามีส.ว.หลายคนที่รู้จักกับส.ส.ของ พท.หลายคนก็มีเจตนารมณ์หวังดีกับประเทศชาติ เพียงแต่อาจมีแนวคิดทางการเมืองบางเรื่องแตกต่างกัน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันได้

เมื่อถามว่า การแก้ไขม.112 ที่ดูเหมือนเป็นเงื่อนไขสำคัญยากต่อการที่จะได้มาของเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมรวมถึงเสียงของส.ว.ที่จะไม่สนับสนุนให้นายพิธา มองว่าพรรค ก.ก.ควรจะแสดงท่าทีอย่างไร


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอไม่ก้าวล่วงและคิดแทนพรรค ก.ก. แต่ในส่วนของพรรค พท. เรื่องใดก็ตามที่ยังมีความแตกต่างกันและยังมีปัญหา ซึ่งไม่ใช่เพียงเรื่องม.112 ควรจะมาหารือกันบนพื้นฐานการเปลี่ยนผ่าน และไม่ว่าประเด็นใดก็ตามที่มีความเห็นแตกต่างกัน ก็ควรจะหลีกเลี่ยง รวมถึงความเห็นที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งอาจจะเกิดความรุนแรงในอนาคต สิ่งที่ดีที่สุดคือการเปิดเวทีให้ได้ร่วมพูดคุยกัน และหากจำเป็นที่ต้องให้กระบวนการสภาเข้ามาแก้ไข เพื่อหาช่องทางให้ทุกฝ่ายยอมรับได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img