‘รังสิมันต์ โรม’ สวน ‘เสรีพิศุทธ์’ ลั่น ‘ก้าวไกล’ ไม่มีบุญคุณติดค้างกับพรรคการเมืองไหน ย้ำ ‘ก้าวไกล’ ยอมมาแล้วหลายเรื่อง ถ้านับเป็นบุญคุณ ก็มูลค่ามหาศาล ชี้ ที่ผ่านมาแต่ละพรรคย้ำในจุดยืนว่า ‘พรรคการเมืองอันดับหนึ่ง’ ต้องให้เป็นรัฐบาล จึงไม่ถือเป็นเรื่องบุญคุณ แต่เป็นการทำหน้าที่ สส.
วันที่ 3 ส.ค.66 นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องของแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยการประชุมเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ได้เปิดโอกาสให้ สส. ได้แสดงความเห็น ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะต้องมีข้อสรุปทิศทางการโหวตในวันนี้ (3 ส.ค.) และต้องรอความชัดเจนหลังมีการเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 4 สิงหาคมนี้ออกไป ซึ่งวันนี้จะคุยกันว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร
นายรังสิมันต์ย้ำว่า ถ้ามีการเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคจะไม่โหวตให้แน่นอน ส่วนการที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นายรังสิมันต์ บอกว่า ยังไม่ได้มีการหยิบยกมาหารือกันในที่ประชุม สส. ซึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลได้เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น และพรรคพร้อมที่จะรับฟังอย่างจริงใจ
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลยอมถอยในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องประธานรัฐสภา เรื่องกรอบทำงาน สส. วันประชุมสภา และ เรื่องนายกรัฐมนตรี ก็เจอวิชามาร ตีความให้เสนอชื่อนายพิธาซ้ำไม่ได้
“เรายอมมาหลายเรื่องเพื่อรัฐบาล 8 พรรคเดินหน้าต่อไปได้ แต่ไม่ยอมรับที่มีความพยายาม จากคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ขัดขวางไม่ให้พรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องและไม่สามารถที่จะเข้าใจได้”
ส่วนความเห็นของ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ระบุว่า พรรคก้าวไกลควรโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เพราะมีบุญคุณต่อกันนั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า ประชาชนคือบุคคลที่มีบุญคุณกับพรรคก้าวไกลสูงสุด และพรรคก้าวไกลไม่ได้มีบุญคุณติดค้างกับพรรคการเมืองใด
“พรรคก้าวไกลยอมมาแล้วหลายเรื่อง ยอมแล้ว ยอมอีก ยอมต่อ ซึ่งหากนับเป็นบุญคุณ คงเป็นบุญคุณมูลค่ามหาศาล ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละพรรคการเมืองก็ย้ำในจุดยืนว่า พรรคการเมืองอันดับหนึ่งจะต้องให้เป็นรัฐบาล จึงไม่ถือเป็นเรื่องบุญคุณ แต่เป็นการทำหน้าที่ สส.”
