“ศุภจี” โชว์กึ๋นภูมิใจไทย! ชูโมเดล “บูรณาการ-เทรดพลัส” ดันราคาข้าวพุ่ง 1.8 หมื่น ลั่นยกระดับ SME และเกษตรไทยให้ยิ้มสวยขึ้น พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “ติดปีก SME” และ “รัฐฉับไว” ลดขั้นตอนกฎหมายสร้างความโปร่งใส ตั้งเป้า 4 ปีข้างหน้าเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจไทยด้วยอุตสาหกรรมมูลค่าสูงและฮับฮาลาล
เมื่อเวลา 12.32 น. วันที่ 24 ธ.ค.68 ที่โรงละครอักษรา ศูนย์การค้าคิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นแถลงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 โดยเป็นผู้ปิดท้ายเวทีการนำเสนอนโยบาย
นางศุภจี เริ่มต้นด้วยการเน้นเรื่องราคาสินค้าเกษตร โดยระบุว่าข้าวเปลือกขาวปัจจุบันอยู่ที่ราคาเกิน 8,000 บาทต่อถัง ข้าวหอมมะลิแตะ 18,000 บาท พร้อมย้ำว่า “ทั้งหมดที่ทำมาไม่ได้ใช้เงิน แต่ใช้วิธีบูรณาการหาช่องทางและตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้เกษตรกร” นอกจากนี้ยังเน้นแนวคิด “เทรดพลัส” ในการเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจ นางศุภจี กล่าวว่า ประเทศไทยต้องมองหาโอกาสในโลกยุค Multi polar world และวางตัวให้เป็นจุดสมดุลทางการค้า เพื่อดึงดูดคู่ค้าและพันธมิตรทั่วโลก พร้อมขยายมูลค่าภาคการบริการ อาทิ การแพทย์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และธุรกิจคอนเทนต์ ให้สอดรับกับสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมมูลค่าสูง
ในด้านภาคเกษตร นางศุภจี ระบุว่า ประเทศไทยมีแรงงานเกษตรราว 30% แต่สร้างรายได้เพียง 6% ของ GDP ทางการเกษตร ดังนั้นจึงต้องเพิ่มผลผลิต มุ่งไปที่สินค้าคุณภาพสูงและมีความต้องการในตลาดโลก พร้อมสนับสนุนโครงการทดลองปลูกพืชท้ายไร่ และพัฒนาตลาดรองรับสินค้าเกษตรกว่า 1 ล้านไร่
สำหรับ SMEs นางศุภจี ชูนโยบาย “ติดปีก SME” ส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ (Asset Light) ให้ประชาชนสามารถสร้างธุรกิจโดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง และผลักดันสินค้า GI เพื่อเพิ่มมูลค่า นอกจากนี้ยังสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ที่เป็น Content Developer ให้เข้าถึงแหล่งทุนและสิทธิบัตร พร้อมต่อยอดธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ
นางศุภจี ยังเน้นเรื่องภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว โดยสร้าง New S-Curve เพื่อเพิ่มมูลค่าการบริการและความมั่นใจของนักท่องเที่ยว พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจฮาลาลและดึงดูดการถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ
นอกจากนี้ นางศุภจี ย้ำถึงนโยบาย “รัฐฉับไว อนุมัติไว ไม่มีกั๊ก” ลดความซ้ำซ้อนของกฎหมาย และสร้างความโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเศรษฐกิจอย่างเต็มที่
นางศุภจี ปิดท้ายด้วยรอยยิ้มและมุมมองเชิงบวกว่า หากได้รับโอกาสบริหารประเทศอีก 4 ปี “เราจะทำให้คนไทยยิ้มได้สวยขึ้นอย่างแน่นอน”



















