หน้าแรกCOLUMNISTSรับมือภัยคุกคาม‘โดรน’ไทยพร้อมแค่ไหน

รับมือภัยคุกคาม‘โดรน’ไทยพร้อมแค่ไหน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

หลังพบว่า มีการบังคับ “โดรน” ที่สร้างความแตกตื่นกันทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน โดยคาดว่าเป็นฝีมือของ “กลุ่มผู้ไม่หวังดี” ตั้งใจสร้างความปั่นป่วนขึ้นมา ในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ในภาวะตึงเครียดจากการสู้รบ

จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจาก ตำรวจประจำพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบ “โดรน” บินรอบสนามบิน ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกมีการใช้ “ฝูงโดรน” บินกว่า 30 ลำ คาดว่า เป็นการบินโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ชนิดเดียวกับ “โดรนแปรอักษร” บังคับโดย “บุคคลเพียงคนเดียว”

และในวันถัดมา (21 ธ.ค.) พบโดรนบินป่วนน้อยลง เหลือประมาณ 10 ถึง 15 ลำ โดย ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ ว่า “เป็นการบินแบบรายคน อาจทำไปด้วยความคึกคะนอง ต่อมาในวันที่ 22 ธ.ค. ไม่พบการบินโดรนรอบสนามบินสุวรรณภูมิ”

เบื้องต้นการบินโดรนป่วนครั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ให้น้ำหนักว่า มีความเชื่อมโยง “กลุ่มสแกมเมอร์จีนเทา” ที่มีศักยภาพในการหาเงินทุนและอุปกรณ์ เพราะเสียผลประโยชน์ จากการที่ไทยโจมตีเป้าหมายในกัมพูชา ส่วนการบินโดรนในปัจจุบันอาจเป็นกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการตรวจพบโดรนจำนวนมากในวันที่ 20-22 ธ.ค. ทาง การท่าอากาศยานฯ จึงได้ประสานไปยังตำรวจนครบาล ให้จัดชุดแอนตี้โดรน เข้ามาประจำสนามบิน เพื่อป้องกันภัยคุกคาม

แต่ปัญหาคือ แม้จะมีอุปกรณ์แอนตี้โดรน แต่ถ้าหากคลื่นความถี่ไม่ตรงกัน เช่น เป็นโดรนที่ผ่านการดัดแปลงความถี่จากโดรนทั่วไป ก็ไม่สามารถยิงโดรนเหล่านั้นให้ตกลงมาได้ นอกจากนี้ ฝ่ายปฏิบัติยังขาดซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า “โดรนดีเทคเตอร์” ในการระบุพิกัดของผู้บังคับโดรนอีกด้วย

ทั้งนี้ ตำรวจประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ยังให้ข้อมูลทิ้งท้ายว่า “ในทุกวันนี้ เราโชคดีที่มีพลเมืองดีช่วยเป็นหูเป็นตา ยกตัวอย่างเช่น การยึดโดรนที่โรงแรมย่านลาดกระบัง แล้วจับกุมชาวเมียนมา 4 ราย ไปตรวจสอบ”

ในกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่เองก็ได้เบาะแสจากพลเมืองดี สุดท้ายทราบว่า โดรนที่ยึดได้ทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับการบินป่วนสนามบินเลยก็ตาม เช่นเดียวกับการตรวจยึดโดรน 2 พันกว่าลำ ก็พบว่าเป็นการลักลอบขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น เป็นการสั่งโดรนจากประเทศจีนมาขายต่อ

ดังนั้น หากประเทศไทยต้องการป้องกันภัยคุกคามจากโดรนอย่างจริงจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องจัดสรรทั้งบุคลากร อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องให้มีความพร้อม มากกว่าแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนเพียงอย่างเดียว

………………..

คอลัมน์ : The Key Reported by Fah kham-ram

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img