“จตุพร” คาดต้น เม.ย. การเมืองเดือด ด้วยปัจจัยดีลใกล้ครบสัญญา ยกโพสต์เพจ บิ๊กแดง ระบุ ดีลกลับบ้านเลี้ยงหลาน แต่มาเลี้ยงหมาในคอก แสดงอารมณ์กดดันเดือดระอุ จับตาเมษาการเมืองร้อน คู่ดีลคิดจัดการคนเบี้ยวอย่างสาสม
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.67 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ โดยยกข้อความโพสต์ของเพจ “บิ๊กแดง” ที่ส่งสัญญาณกดดันเดือดระอุ สะท้อนอารมณ์ถูกเบี้ยวดีลตามสัญญากลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ซึ่งเมื่อได้พักโทษแล้ว กลับไม่ปฏิบัติตาม เอาแต่จะเดินสายการเมือง
สิ่งสำคัญย้ำว่า เพจบิ๊กแดง ได้โพสต์ข้อความ “ไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลาน แต่กลับมาเลี้ยงหมาในคอก” และใช้คำแรงๆ ว่า “หนักแผ่นดิน” ดังนั้น สะท้อนอารมณ์กดดันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคนโพสต์อาจเป็นบิ๊กแดงหรือแอดมินเป็นผู้โพสต์ก็ได้
“ข้อความที่โพสต์ว่า ไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลานนั้น แสดงว่า การเลี้ยงหลานอยู่ในดีลการกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร แต่วันนี้ไม่มีใครพูดถึงการเลี้ยงหลานแล้ว หากตกลงกันว่าจะมาทำพรรคการเมือง หรือจะเดินงานการเมืองต่อ คงไม่มีใครจะกล้าไปดีลด้วย”
นายจตุพร กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ในวันพุธที่ 3 เม.ย.นี้ พรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตาม รธน. ม.152 และในวันดังกล่าวนั้นอาจคาบเกี่ยวกับ ศาล รธน.จะพิจารณารับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณียุบพรรคก้าวไกลหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ถ้าศาล รธน.ถ้ารับคำร้องคงพ่วงคำสั่งให้กรรมการบริหารพรรคหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ดังนั้น เมื่อเปิดสภาในวันที่ 3 เม.ย.แล้ว กรรมการพรรคก้าวไกลควรต้องรีบอภิปรายฯ ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้อภิปรายฯ เลย
รวมทั้งกล่าวว่า เหตุการณ์ที่พรรคก้าวไกลจะยุบพรรคหรือไม่ คงไม่จำเป็นให้ทักษิณ มาช่วยเพราะกลไกอำนาจสามารถจัดการเองกันได้ โดยตัวอย่างพรรคไทยรักไทยในอดีตมีเสียงมากถึง 377 เสียงยังไม่สามารถต้านทานการยุบพรรคได้ แล้วพรรคก้าวไกลมีแค่ 151 เสียงคงยากจะรับมือไหวเช่นกัน
ส่วน สว.จะหมดวาระในวันที่ 11 พ.ค.นี้ นายจตุพร คาดว่า สว.คงมีการยื่นศาล รธน .ตีความบทบาทหน้าที่รักษาการ สว.ระหว่างรอให้ชุดใหม่มาทำหน้าที่ โดยให้ ศาล รธน.วินิจฉัยว่า รักษาการ สว.สามารถโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ ซึ่งแสดงถึงการยื้อกดดันสถานการณ์ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยอีกแบบหนึ่งในอนาคต
ไม่เพียงเท่านั้น โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่วันที่ 10 เม.ย.นี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าผ่านให้แจกเงินหมื่นแล้วคงได้เห็นบรรยากาศการเมืองอีกแบบ แล้วจะเกิดเรื่องกดดันมาเป็นลำดับท่ามกลางสัญญาดีลใกล้ครบตามข้อตกลงที่ทำกันไว้
“สัปดาห์หน้า นอกจากข่าวการยุบพรรคก้าวไกลและการอภิปรายรัฐบาลแล้ว ในเรื่องอื่นอย่าประมาทเพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองมากที่สุด โดยก่อนสงกรานต์จะเป็นอุณหภูมิหนึ่ง และหลังสงกรานต์ก็เป็นอีกอุณหภูมิหนึ่ง”
นายจตุพร กล่าวว่า คู่ดีลกับทักษิณนั้น คงไม่ต้องการยื้อเวลาดีลไปจนข้ามวันที่ 11 พ.ค.ที่ สว.จะหมดวาระแน่นอน เนื่องจากส่วนหนึ่งไม่ต้องการไปเผชิญหน้ากับการตีความ สว.รักษาการทำหน้าที่อะไรได้บ้าง แต่ก่อนจะถึงวันดังกล่าวคู่ดีลได้วางแผนไว้อย่างรัดกุมหลายชั้นเพื่อปกป้องการถูกเบี่ยวดีล และถ้าเกิดการเบี้ยวกันจริงๆแล้ว จะปรับวิธีการจัดการกันอย่างไรให้สมน้ำสมเนื้อและให้สอดคล้องกับปัญหาที่ถูกเบี้ยว
อีกทั้ง กล่าวว่า ทุกอย่างที่ดีลกันไว้ใกล้เข้ามาทุกขณะ แม้ผู้แสดงทั้งสองฝ่ายกำลงเล่นละครหน้าฉากตบตาโชว์ความแข็งแรง แต่คู่ดีลเริ่มถูกกดดันว่า ถ้าไม่เป็นไปตามสัญญาแล้ว ผลร้ายจะเกิดขึ้นตามมามีอะไรบ้าง
“สถานการณ์ที่เป็นแบบนี้ ความจริงเกิดจากการตัดสินใจผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น จึงเกิดความเสียหายมาถึงวันนี้ ดังนั้น การจะห้ามเลือดความเสียหายแล้ว ต้องกำกับให้มีจุดจบตามข้อกำหนดก่อน”
นายจตุพร กล่าวว่า อีกอย่างการดีลกันมาทั้งหมดนั้น ไม่มีเรื่องของประชาชนเลย จึงทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการดีลทั้งหมดเดินหน้าไปยากที่สุดเมื่อไม่มีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดีล โดยอย่าเอาแต่ประโยชน์ของนักการเมืองที่ไม่สมควรได้เลย เมื่อชีวิตผู้คนถูกลงทุนไปมากมาย แล้วสุดท้ายกลับมาจูบปากกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
รวมทั้งย้ำว่า ถึงขณะนี้เริ่มมีปฎิบัติการสะท้อนให้เห็นแล้วว่า ถ้ามีการเบี้ยวดีลกันแล้ว จะเกิดปฎิบัติการตอบโต้อย่างหนักหน่วงกว่าทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ขณะนี้ทำท่าจะผิดดีลกันแล้ว และเรื่องการกลับบ้านมาเลี้ยงหลานนั้นชัดเจนว่า จะไม่เป็นไปตามที่ดีลกันไว้
นอกจากนี้ นายจตุพร กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แสดงออกมาชัดเจนว่า หมดสภาพกับการแก้ไขปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระหว่างการเปิดศึกกันของบิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กับบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีแบ่งฝ่ายตอบโต้กล่าวหาพัวพันส่วยบ่อนพนันออนไลน์ ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหายังลุกลามไปถึงเงินบริจาคทำบุญให้กับวัดอีกด้วย ซึ่งวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และคงไม่รับรู้หรือจะให้วัดตรวจสอบแหล่งเงินทำบุญก่อนด้วยหรือ?
“ส่วนใครจะขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.คนใหม่นั้น ขึ้นอยู่กับความร้อนแรงของสถานการณ์ แต่คนที่คาดว่าจะได้เป็นยังไม่ชัดเจน แม้เดือนเมษาอากาศร้อนแล้ว แต่เมื่อดูเพจบิ๊กแดงโพสต์จะเริ่มเห็นจุดเดือดเกิดขึ้น ดังนั้น จึงเป็นสถานการณ์ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดถัดจากนี้ไป”
นายจตุพร เปรียบเทียบการชกกระสอบทรายของทักษิณ และนายเศรษฐา ว่า ทักษิณ ชกกระสอบทรายเพื่อจะกลับบ้าน แล้วนายเศรษฐา ชกเพื่อจะพ้นจากนายกฯ ได้กลับบ้านหรือเปล่า