วันอังคาร, ตุลาคม 1, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS"เศรษฐา-แพทองธาร' ร่วมประชุมพรรคเพื่อไทย ลั่นพรรคไม่ใช่อนุรักษ์นิยม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เศรษฐา-แพทองธาร’ ร่วมประชุมพรรคเพื่อไทย ลั่นพรรคไม่ใช่อนุรักษ์นิยม

‘เศรษฐา-แพทองธาร’ ร่วมประชุมพรรคเพื่อไทย ลั่นพรรคไม่ใช่อนุรักษ์นิยม เตรียมเปลี่ยนแปลงพรรคเพื่อไทยครั้งใหญ่ เผย ต้นเดือน พ.ค. จะสรุปผลงานพรรค ไม่ต้องรอถึง 10 เดือน นายกฯ ยันความปราถนาเดียวคือพา ‘เพื่อไทย‘ กลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง

วันที่ 5 เม.ย. การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ที่พรรคเพื่อไทย โดยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค , แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค วิสุทธิ์ ไชยอรุณ ประธานวิปรัฐบาล รัฐมนตรีในรัฐบาล และกรรมการบริหารพรรค สส. และสมาชิกพรรคคนสำคัญร่วมประชุมด้วย รัฐมนตรีที่มาร่วมประชุมนั้นได้ทำการออนไลน์ราชการเป็นเวลาครึ่งวัน เพื่อมาร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี

ทั้งนี้ช่วงหนึ่งพรรคได้เปิด VTR บทสัมภาษณ์ ของ เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตรและ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นของพรรคเพื่อไทย ซึ่งทางนายทักษิณ ได้ยืนยันในว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ ตามที่มีคนตั้งข้อสังเกต แต่พรรคเพื่อไทย ที่มีที่มามาจากพรรคไทยรักไทย เป็นพรรคที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพรรคไทยรักไทย ได้เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เรื่องประกันสุขภาพ เรื่องการกระจายเงิน เรื่องการดูแลสินค้าเกษตร ซึ่งทุกๆ เรื่องเป็นเรื่องใหม่ และวันนี้พรรคเพื่อไทย กำลังจะทำดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นเรื่องที่โคตรใหม่ และไม่ได้ใหม่ธรรมดา เพราะว่าโลกหมุน โลกเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนตามไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้ให้ ผู้นำของพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรีสื่อสารนั้นคือนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต และ นโยบายซอฟพาวเวอร์ โดยในบางช่วง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุยกตัวอย่าง หากได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ภายในวันที่ 1 ตุลาคมปี 2567 จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่เศรษฐา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ได้เปิดตัว มาตั้งแต่ในช่วงการเลือกตั้งปี 2566 บางช่วงใน VTR ซึ่งทางนายเศรษฐา ระบุว่า อายุของตน กำลังเหมาะสมที่จะมาทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี มีวุฒิภาวะพอที่ไม่ตัดสินใจโดยพละการ และ ผ่านงานบริหารขนาดใหญ่มาพอสมควร

ขณะที่ แพทองธาร กล่าวยอมรับในช่วงหลังผ่านการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นอันดับ 2 และหลีกทางให้พรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพอจะตั้งไม่สำเร็จพรรคเพื่อไทยก็รับไม่ต่อเพื่อตั้งรัฐบาล โดยเรามีบทเรียนจากการเลือกตั้งปี 2562 ที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แม้จะเป็นพรรคอันดับ 1

ด้านนายทักษิณได้ระบุว่า ตนเชื่อมั่นในตัว นายเศรษฐา ในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เปรียบเทียบจุดเด่นระหว่าง ตนเอง และ นายเศรษฐาว่า ในขณะนี้ นายเศรษฐาเหมาะกับการเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และได้ยกจุดเด่นที่ นาย เศรษฐา มีเครือข่ายในเมือง ซึ่งเป็นจุดเด่นกว่าตน ในช่วงที่ตนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ และน.ส.แพทองธาร นั้นเชื่อว่าจะนำพรรค ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปได้ และเป็นส่วนผสมระหว่างตนเอง กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ และได้เรียนรู้จากแม่ จากพ่อมาและ เชื่อว่าเป็นผู้นำพรรคที่ดี แต่ตนไม่ได้เชียร์ลูกและย้ำว่าแพทองธารมี DNA ของทั้งพ่อทั้ง และแม่ตนเชื่อมั่นว่าเขาต้องทำได้

จากนั้นนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศน์และความพร้อมในการทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนของพรรคเพื่อไทย ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของพรรคเพื่อไทย ณ สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ เริ่มต้นกล่าวถึงนิยามที่สำคัญคำหนึ่ง คือคำว่า “สภาที่เข้มแข็ง คือรัฐบาลที่เข้มแข็ง” นิยามนี้ คือข้อเท็จจริงของรัฐบาลเสรีประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา การบริหารประเทศ ทั้งสองสถาบัน ต้องเกื้อกูลกันและกัน โดยมีประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะประชาชนคือหัวใจของอุดมการณ์ที่สำคัญของพรรคการเมือง


สมัยรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทย สามารถขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน, OTOP และ อีกมากมาย ที่ทำให้ พรรคไทยรักไทย เข้าไปนั่งในหัวใจ พี่น้องประชาชน นั้น ปัจจัยสำคัญ เพราะ มีฝ่ายนิติบัญญัติ ที่เข้มแข็งเป็นเอกภาพ

รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ในปัจจุบัน แม้ว่าเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา แต่ไม่ใช่ด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว เราต้องทำงานร่วมกับหลายพรรคการเมืองทำให้การทำงานในสภาเป็นเรื่องที่ท้าทาย ทั้งการประสานงานภายในพรรคและการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ต้องสร้างเอกภาพร่วมกัน ทั้งยังต้องคอยแก้ปัญหาจากการประสานงานร่วมกับฝ่ายค้าน ที่บ่อยครั้งมีการดำเนินการที่ตรงกันข้าม กับสิ่งที่ได้ตกลงร่วมกันกับฝ่ายรัฐบาลไว้

กลไกลการเมืองปัจจุบัน การปรับตัวตามความรวดเร็วในการสื่อสารที่เป็นกลยุทธสำคัญที่นำมาใช้โจมตีอย่างฉับไว การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ แม่นยำไปสู่สาธารณชน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณแพทองธาร ชินวัตร มีนโยบายการจัดตั้งส่วนประสานงานการเมืองและกิจการสภา ทั้งในส่วนวิชาการและฝ่ายสื่อสารขึ้นในพรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการอภิปราย/การสื่อสารความเข้าใจ โดยตรงกับประชาชน ป้องกันจากข้อมูลที่ผิด

หน้าที่สำคัญอีกอย่างของ สส. ในยุคปัจจุบัน คือการลงพื้นที่เพื่อพบปะกับประชาชน รับฟังปัญหา ข้อคิดเห็น ด้วยตนเอง ซึ่งรูปแบบในการเข้าหาประชาชน ในปัจจุบัน มีหลายวิธี ทั้ง offline และ online ยิ่งตอนนี้ ผมลงพื้นที่บ่อย รู้เลยว่าชาวบ้าน เค้ารอนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพื่อปากท้องพี่น้องประชาชน อยู่อย่างมีความสุข อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี

การสื่อสาร ทาง online ให้ครบทุกแพลทฟอร์ม เป็นเรื่องจำเป็น เมื่อได้รับฟังปัญหา รวบรวม นำมาอภิปราย ซักถาม ในสภา แล้วนำผลที่ได้จากการหารือในการแก้ปัญหา ไปสื่อสารให้ประชาชน ในพื้นที่รับทราบ ประชาชนจะเห็นถึงความมุ่งมั่น ทำงานเข้มแข็ง ทั้งในพื้นที่ ทั้งในสภา และเมื่อไรที่ผลงานของรัฐบาลค่อยๆ ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน และกระทบใจกับพี่น้องประชาชน ความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนจะกลับมาอีกครั้งรัฐบาล จะมีเสถียรภาพเข้มแข็งแค่ไหน สุดท้ายอยู่ที่สภาเป็นตัวตัดสิน.. ถ้าสภาสามารถออกกฎหมายเพื่อให้ รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ประโยชน์สูงสุด จะอยู่กับพี่น้องประชาชน

นอกจากนั้น สภายังมีหน้าที่ ส่งผ่านความต้องการของประชาชนไปยังรัฐบาลได้โดยตรงและสนับสนุนรัฐบาลให้สามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพจากงานสภาที่เข้มแข็ง

ท้ายที่สุดแล้ว ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย การบริหารและความร่วมมือร่วมใจของ สมาชิกสภาผู้แทนของเราจะเป็น ผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้รัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย นายกเศรษฐา ทวีสิน บริหารประเทศ อย่างตั้งใจ เพราะ พรรคเพื่อไทย หัวใจ คือ ประชาชน

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาในการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2567 ของพรรคเพื่อไทย ว่า ตนเองขอพูดถึงการทำงานต่างๆ ในตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวีซาฟรี การพักหนี้ การเดินทางไปเจรจา FTA โครงการแลนด์บริจด์ การดำเนินงานการส่งเสริมการลงทุน ตนเองก็ต้องเดินทางไปตามต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งความเป็นจริงไม่อยากบินไป จนถูกเปรียบเทียบว่าเป็นแมลงวัน หรืออะไรก็ตาม ซึ่งฟังดูแล้วก็ตลกดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าเป็นสีสันในชีวิต ซึ่งไปสอบถามคณะทำงานของตนเองได้ว่า การเดินทางไปแต่ละครั้งไม่ได้สบายเลย ซึ่งการลงทุนหลักแสนล้าน นักลงทุนเหล่านี้คงไม่ใช้เวลาเพียง 7 เดือน

อย่างไรก็ตามในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นน้องใหม่ที่นี่ เข้าใจว่า 13 เดือนเป็นระยะเวลาอันสั้น ถือว่าการต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ตอนอายุ 60 ไม่ใช่เรื่องง่าย สองวันที่ผ่านมาก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยคิดว่าต้องไปยืนบนเวที และต้องถูกต่อว่าในหลายเรื่องที่ไม่เป็นความจริง แต่ก็ต้องกัดฟัน และรับรู้ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอเรื่องพวกนี้ แต่ไม่เป็นไร ซึ่งหากย้อนกลับไป 13 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจาก สส. อายุน้อย ผู้อาวุโสในพรรค ขอบคุณทุกท่านทีให้การต้อนรับอย่างจริงใจ และอบอุ่นที่ดีมาตลอด การเลือกตั้งที่ผ่านมา เราแพ้เลือกตั้ง ฟังแล้วบีบหัวใจแต่คือความจริง เราได้ 141 เสียง จาก 500 เสียง ตนเองในฐานะสมาชิกพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ก็เจ็บปวด ก็ต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่งด้วย ทั้งการเข้าถึงพี่น้องประชาชนไม่เต็มที่ การไม่ไปดีเบท ตนเองคงไม่มาแก้ตัวใดทั้งสิ้น ขอน้อมรับกับผลที่ออกมา กับข้อกล่าวหา แต่ตนเองเป็นคนที่ไม่แพ้ตลอดกาล

เมื่อสักครู่ที่ผู้นำจิตวิญญาณของพรรค บอกว่าตอนนี้เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากมีนัยสำคัญเยอะมาก หากไปดูประวัติของตนเอง เชื่อว่าชีวิตตนเองครบหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งครอบครัว ความสำเร็จในการบริหาร แต่การก้าวเข้ามาตรงนี้ เรื่องเดียวที่มีความปราถนา คือการนำชัยชนะกลับมาให้พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ผมบอกทุกคนว่า ผมต้องชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้ผมไม่สามารถทำได้ จะทุ่มเทกายและใจ ในอีก 3 ปีครึ่งข้างหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนในพรรค เพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้ อดีตที่ผ่านมามีทั้งความขมขื่นของพวกเรา ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งการถูกยุบพรรคสองครั้ง วาทกรรมที่ถูกต่อว่า ถูกนำมาใช้กับพวกเราทุกคน และตนเองแม้จะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีจิตวิญญาณเหมือนทุกท่าน ความเจ็บปวด ขมขื่นกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง และเราทุกคนในที่นี้ เรามองอนาคตที่สดใสดีกว่า ที่เรามาอยู่ในที่นี้ เรามี 141 เสียง จาก 500 เรามีประธานสภา รองประธานสภา มีนายกฯ มีรองนายกฯ มีรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ เรามีเรา

เราควรโฟกัสเรื่องเหล่านี้แทนที่จะโฟกัสกันว่าคนอื่นเขามีอะไร พรรคอื่นเขาได้อะไร ควรมองแค่นี้หรือไม่ วันนี้สนามหญ้าหน้าบ้านเรา อาจไม่เขียวเท่าเขา แต่เรามีปุ๋ย มีน้ำ มีรถตักที่ดีกว่า แทนที่มัวแต่มองไปบ้านเขา ลุกขึ้นมาได้ไหม เอาน้ำมารด เอาปุ๋ยมาเท มาช่วยกันทุกคน เพื่อให้สนามหญ้าบ้านเราเขียวขจีอย่างเขาได้หรือไม่ ตนเองมีจุดประสงค์เดียวในชีวิต คือการชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป องค์ประกอบเหล่านี้เพียงพอหรือไม่ที่จะพาทุกท่านใช้ข้างหน้าได้ ขอให้มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ ตลอดระยะเวลาอีก 3 ปีครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ เราจะทำงานหนัก อย่างต่อเนื่อง รับฟังประชาชนทุกคน และตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนทุกคน

ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาว่า พรรคกำลังที่จะเปลี่ยนแปลงใหม่ เปลี่ยนการทำงาน รับคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยกันทำงาน ซึ่งทุกคนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรคเพื่อไทยในเร็ว ๆ นี้แน่นอนสิ่งที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลง ก็เพราะว่าจะเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนเพื่อไทย ยังคงอยู่กับประเทศไทยตลอดไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนหัวหน้าพรรคไปอีกกี่คน หรือบริบทของประเทศจะเปลี่ยนแปลงทางไหนในอนาคต พรรคเพื่อไทยก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยได้เสมอ

วันนี้ขอชื่นชมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่มาสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนในพรรคให้กำลังใจ ทั้ง ๆ ที่นายกฯ ก็ได้แบบรับภาระที่หนักหน่วงทั้งประเทศเอาไว้ เช่นเดียวกับความคาดหวัง เรื่องปากท้องพี่น้องของประชาชน มีคนบอกว่าเราเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ ที่จะเน้นการคงไว้ซึ่งสิ่งเดิม ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เพราะ DNA ของพรรคคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเราสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทยทุกครั้ง ซึ่งหนึ่งในนโยบายการเปลี่ยนแปลงของพรรคเพื่อไทยนั้นก็คือนโยบายดิจิตอล วอลเล็ต ที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากฐาน โดยในต้นเดือนพฤษภาคม เราจะมีการสรุปผลงานของพรรคเพื่อไทย ให้เห็นว่าผลงานพรรคเพื่อไทยที่ไม่ต้องรอถึง 10 เดือนจะเป็นอย่างไร

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img