ปลัดคลัง’ เมิน ‘ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ’ จี้รัฐทบทวน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท’ ชี้เป็นความเห็น-ข้อเสนอเก่า บอกผู้ว่าฯแบงก์ชาติก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ กรรมการคนอื่นๆ อีก 20 กว่าคน ไม่ได้มีความเห็นเช่นนี้ เผย หลังจากผ่านคกก.-ครม. ลุยเดินหน้าตามแผนเดิม
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ถึงกรณีที่นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี ให้ทบทวน พร้อมตั้งข้อสังเกตในโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทว่า ผู้ว่าการธปท.สามารถให้ความเห็นมาได้ ทั้งเห็นด้วยและมีข้อทักท้วง ซึ่งเราก็รับฟัง และการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้มีการพิจารณาเรื่องของหลักการ และขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ไป แต่จะมีระเบียบและกฎหมายที่ต้องดำเนินการตามนั้น
“ความเห็นของผู้ว่าการธปท.ไม่ได้ส่งผลให้โครงการดังกล่าวสะดุดลง และขณะนี้ยังมีเวลาในการพิจารณา ซึ่งหลังจากนี้ต้องเริ่มดำเนินการได้แล้ว เนื่องจากได้ผ่านการเห็นชอบในหลักการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
ส่วนความเห็นของผู้ว่าการธปท.ที่ออกมาระบุว่า ขอให้ลดกลุ่มเป้าหมาย เหลือเพียงกลุ่มเปราะบาง ที่มีรายได้น้อยประมาณ 15 ล้านคน จะนำข้อเสนอดังกล่าวมาพิจารณาด้วยหรือไม่ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทางผู้ว่าการธปท. เคยให้ความเห็นเช่นนี้มาตั้งแต่ต้น จนผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่ากลุ่มใดเป็นผู้ที่เหมาะสม ซึ่งได้ผ่านขั้นตอนนั้นไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผู้ว่าการธปท.ให้ความเห็นมา ก็เป็นข้อเสนอแนะเดิมที่เคยพูดในที่ประชุมมาโดยตลอด ไม่มีอะไรเป็นประเด็นใหม่ ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการชี้แจงต่อข้อกังวลของธปท.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามว่า จะมีการชี้แจงต่อธปท.อีกครั้งหรือไม่ นายลวรณ ยืนยันคำเดิมว่า ได้มีการชี้แจงต่อธปท.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ผู้ว่าการ ธปท.จะไม่ได้มาเข้าร่วมการประชุมก็ตาม คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากเราพิจารณาในรูปแบบของคณะกรรมการฯ ซึ่งทางผู้ว่าการธปท. ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ คณะกรรมการท่านอื่นๆ อีก 20 กว่าคน ก็ไม่ได้มีความเห็นเช่นนี้ยืนยันว่า โครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเดินหน้าต่อตามแผนเดิม ตามที่ครม.มีมติเห็นชอบ
ส่วนจะมีการส่งคณะกรรมการกฤษฎีการตีความ เกี่ยวข้องกับข้อกังวลของธปท.หรือไม่ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ โดยนายรัฐมนตรีได้สั่งการว่า ต้องทำด้วยความรอบคอบ ในประเด็นที่เราเห็นว่า ไม่มีความชัดเจน ก็ให้มีการปรึกษากฤษฎีกา ในเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกฤษฎีกา ยืนยันว่าการใช้งบประมาณจากธนาคารธ.ก.ส.ตามมาตรา 28 ปีงบประมาณ 2568 จะสามารถดำเนินการได้ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งถือว่า ยังคงมีเวลาอยู่