วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“กบ ไมโคร”ให้ปากคำรับเคยเป็นแม่ทีม ระบบ“ไม่เถียงไม่ถามทำตามอย่างเดียว”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กบ ไมโคร”ให้ปากคำรับเคยเป็นแม่ทีม ระบบ“ไม่เถียงไม่ถามทำตามอย่างเดียว”

“กบ ไมโคร”ให้ปากคำตำรวจ ในฐานะผู้เสียหาย รับเคยเป็นแม่ทีม เผยระบบงานไม่เถียง ไม่ถาม ทำตามอย่างเดียว และได้ออกจากธุรกิจดังกล่าวเพราะขายไม่ได้และาศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้อย่างจริงจัง จึงพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล

เวลา 10.30 น.วันที่ 15 ต.ค.67 นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ ‘กบ ไมโคร’ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ทันทีที่มาถึง เจ้าตัวเดินหลบสื่อมวลชน และขึ้นไปชั้น 2 อาคารกองบังคับการปราบปราม พูดเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้เข้ามาให้ปากคำในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่ง กรณีดิไอคอน

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าชื่อตัวเองนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทดังกล่าว นายไกรภพ ตอบว่า ไม่กังวล ก่อนขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน

ภายหลังจากที่ หรือ กบไมโคร ได้เดินทางเข้าพบพงส.บก.ปคบ. กรณีดิไอคอน กรุ๊ป กล่าวว่า  วันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะมีประเด็นที่เป็นกระแสตั้งคำถามอยู่ในโซเชียลว่า ตนเป็นผู้ร่วมขบวนการ หรือเป็นผู้เสียหาย  สาเหตุที่ทำให้ร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ เพราะว่าเชื่อมั่นในตัวเลขผลประกอบการของบริษัทที่มียอดขาย 4,000 กว่าล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี ส่วนที่มีคลิปตนที่มีการขึ้นเวทีนั้น ตอนนั้นเป็นตอนที่ตนเข้าร่วมกับบริษัทประมาณถึง4-5 เดือน โดยเป็นการขึ้นไปพูดในหัวข้อ Rising Star ไม่มีสคริปต์แต่อย่างใด แต่ให้ขึ้นไปพูดว่าธุรกิจนี้เปลี่ยนชีวิตอย่างไร ยืนยันว่าที่ขึ้นเวทีไม่ได้รับค่าจ้าง โดยในบริษัทเรียกสิ่งนี้ว่า “การแบ่งบัน”

ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฎว่าตนไปท่องเที่ยวทริปฝรั่งเศส เป็นทริปโปรโมชั่นสำหรับ 10 ดีลเลอร์ ซึ่งตนเอง เปิดไว้ 5 ดีลเลอร์ ภรรยา 2 ดีลเลอร์ และคนในบ้าน 3 ดีลเลอร์ มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท  ซึ่งเปิด 10 ดีลเลอร์ได้กำไรบ้างหรือไม่นั้น ช่วงแรกขายพอได้แต่ช่วงหลังนั้นขายไม่ได้ ขายได้เฉพาะกับคนที่รู้จัก สุดท้ายพอสินค้าใกล้หมดอายุก็เริ่มลดราคา จนถึงขั้นนำไปถวายพระหรือคนรู้จัก

ยอมรับว่าตนเองเป็นแม่ทีมอยู่ในบริษัทดังกล่าวประมาณหนึ่งปีกว่าๆ ซึ่งตอนที่ตนทำธุรกิจไม่มีคำว่าแม่ทีมด้วยซ้ำรู้เพียงแค่ว่าเป็นธุรกิจแบบแฟรนไชส์ หลังมาร่วมธุรกิจนี้ก็ได้มีคนที่รักตนมาร่วมเปิดบิลทั้งหมด 8 ดีลเลอร์ โดยมีลักษณะการทำงาน “ไม่เถียง ไม่ถาม ทำตามอย่างเดียว  เมื่อมีดีลเลอร์สั่งคำสั่งออกมาก็ต้องทำตามที่ดีลเลอร์สั่ง  ส่วนสาเหตุที่ต้องออกจากธุรกิจนี้เป็นเพราะทั้ง 8 คนที่ตามมานั้นไม่สามารถขายของได้ ทั้งที่ 8 คนพยายามทุกความสามารถในทุกช่องทาง ในการขายสินค้าแต่ก็ไม่สามารถที่จะขายได้จึงตัดสินใจที่จะออกจากธุรกิจนี้ช่วง กรกฎาคม-สิงหาคม 2566 และออกมาศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้อย่างจริงจัง จึงพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล

กบ ไมโคร กล่าวว่าถ้ารู้ว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือเครือข่าย จะไม่มีใครที่อยากจะทำธุรกิจแบบนี้ ยอมรับว่าบริษัทดิไอคอนมีปัญหามานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูด เนื่องจากคนที่พูดก็จะถูกฟ้องร้องกลับ เพราะตอนนี้มีคนที่ถูกฟ้องอยู่ในชั้นศาล และจะมีความคืบหน้าในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

กบ ไมโคร กล่าวว่า บิ๊กบอสในบริษัทดิไอคอนมีเพียงคนเดียวนั่นก็ คือบอสพอล แต่จะมีบอสรองลงมาอีก 10 คน และตนเพิ่งรู้ว่าเป็นธุรกิจแบบเครือข่าย เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นธุรกิจแบบออนไลน์เท่านั้น ทั้งนี้ในวันนี้ลูกทีมของตนจำนวน 8 คนได้มอบอำนาจให้ตนดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดิไอคอนและผู้บริหาร ซึ่งสำหรับผู้เสียหายจำนวนแปดคนก็ยังต้องการเงินคืนแต่ตนยืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงินคืนแล้ว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img