วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightโพลชี้“ปชช.”ไม่ศรัทธา“ระบบราชการ” ไม่เชื่อมั่น“กทม.”-จี้“สธ.”ต้องปรับปรุง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โพลชี้“ปชช.”ไม่ศรัทธา“ระบบราชการ” ไม่เชื่อมั่น“กทม.”-จี้“สธ.”ต้องปรับปรุง

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจ ร้อยละ 92.5 ระบบราชการ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งและไม่ได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชน “สธ.” ติดโผอันดับ 1 กระทรวงที่ต้องเร่งปรับปรุง-ช่วยปชช. ขณะที่ระดับฝ่ายปกครอง “กทม.” นำโด่ง ปชช.ไม่เชื่อมั่น

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ร่วมกับนางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล นักวิชาการอิสระด้านการเกษตรและการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมกันเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “วิกฤตศรัทธา ต่อระบบราชการ ยามวิกฤตโควิดและปากท้องของประชาชน” พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 ระบุ กลไกรัฐ ระบบราชการมีปัญหา ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.5 ระบุ ปัญหาในสภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่ในระบบราชการไม่ตอบโจทย์ความต้องการจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนได้ ประชาชนขาดที่พึ่ง และ หมดความน่าเชื่อถือ

ที่น่าเป็นห่วง เมื่อถามถึงประสบการณ์และความเห็นต่อการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ในสภาวะวิกฤตโควิดและปากท้องของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.5 ระบุ ทำงานล่าช้า ร้อยละ 63.2 ระบุ ทุจริต คอร์รัปชั่น ร้อยละ 60.8 ระบุ ไม่มีแผนที่ดีรับมือวิกฤต ร้อยละ 57.1 ระบุ ไม่มีการทำงานเชิงรุก เข้าไม่ถึงประชาชน ร้อยละ 54.7 ระบุ ทำงาน ผักชีโรยหน้า หลอกตาผู้บังคับบัญชาและประชาชน ร้อยละ 49.8 ระบุ ปล่อยปละละเลย ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชน ร้อยละ 48.5 ยึดระเบียบ กฎเกณฑ์มากเกินไป ร้อยละ 42.7 ระบุ ผลักภาระ โยนความเดือดร้อนของประชาชนกันไปมา ไม่เข้าช่วยเหลือประชาชน และร้อยละ 41.5 ระบุ ไม่ตรงไปตรงมา ไม่โปร่งใส

ที่น่าพิจารณาคือ ผลการสำรวจ 5 อันดับแรก หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ กระทรวงต่าง ๆ ที่ต้องเร่งปรับปรุงตัวช่วยประชาชนอย่างเร่งด่วน พบว่า อันดับที่มากที่สุดคือ กระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 83.0 รองลงมาอันดับที่สอง คือ กระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 64.9 อันดับที่สามคือ กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 53.9 อันดับที่สี่คือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร้อยละ 53.2 และอันดับที่ห้า คือ กระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 40.1

อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกออกเป็นคนกรุงเทพฯ และคนต่างจังหวัด พบว่า อันดับที่สูงสุดของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ ปรับปรุงตัวช่วยประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุดได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 88.0 คนต่างจังหวัดร้อยละ 81.3 รองลงมาคือ หัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 78.4 ของคนกรุงเทพมหานคร คนต่างจังหวัดร้อยละ 50.5  ในขณะที่ กระทรวงมหาดไทย พบคนกรุงเทพฯร้อยละ 27.9 คนต่างจังหวัดร้อยละ 56.6 และกระทรวงพาณิชย์ คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 26.1 และคนต่างจังหวัดร้อยละ 69.1

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้ให้เห็นถึงกลไกหลักของรัฐในภาวะวิกฤต คือ “ระบบราชการ” ไม่สามารถเป็นที่พึ่งและไม่ได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชน  โดยส่วนใหญ่ระบุว่า ส่วนราชการต่างๆ ขาดการทำงานเชิงรุก ไม่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยึดกฎระเบียบและไม่อ่อนตัวสนองตอบต่อปัญหา ส่งผลความล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือ ประชาชนยังเชื่อว่า ในยามวิกฤตโรคระบาดและปากท้อง ยังมี “การทุจริตและเอื้อประโยชน์ในระบบราชการ” ซึ่งเป็นปัจจัยกัดกร่อนความเสื่อมถอยของระบบราชการที่สำคัญ

นอกจากนั้นยังสะท้อนให้เห็นถึง ส่วนราชการที่ต้องปรับปรุงตนเองเร่งด่วนในยามวิกฤต คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และกระทรวงศึกษาธิการตามลำดับ  ซึ่งต้องการความตื่นตัวและรับผิดชอบสูงสุดจากหัวหน้าส่วนราชการทุกระดับ โดยเฉพาะการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขในภาวะวิกฤต ทั้งการควบคุมโรค การบริหารจัดการวัคซีนและการดูแลรักษาประชาชน ขณะที่การดูแลปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการควบคุมราคาสินค้าและมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ การดูแลฟื้นฟูระบบการศึกษาให้ต่อเนื่องและไม่ให้เกิดรอย นอกจากนั้น ยังสะท้อนถึงการบริหารจัดการของฝ่ายปกครองทุกระดับ ที่ดูแลทุกส่วนราชการและงบประมาณในพื้นที่จังหวัด อำเภอ โดยเฉพาะ กทม. สะท้อนผ่านสังคม ถึงความไม่เชื่อมั่นและอ่อนแอของระบบที่ชัดเจนยิ่ง 

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวถึง การสนองตอบของระบบราชการที่จำกัดในภาวะวิกฤต จนไม่สามารถเป็นที่พึ่งและเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนจะเป็นตัวเร่งสำคัญให้เกิด “การปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่” โดยเฉพาะการเปลี่ยนย้ายหัวหน้าส่วนราชการระดับต่างๆ จัดการขบวนการทุจริตคอรัปชั่นในระบบราชการ การคัดคนมีความสามารถเข้าและประเมินคนมีความสามารถต่ำออก เพื่อยกระดับระบบราชการที่ตอบสนองประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนและความท้าทายต่อภาคการเมืองและความเป็นผู้นำ (Leadership) ของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อรักษาเสาหลักของชาติและช่วยเหลือประชาชนครั้งนี้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img