“เปรียญสิบ” ไม่อยากจะพูดถึงสถานการณ์คณะสงฆ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เลยจริง ๆ รู้สึกผิดหวัง สิ้นหวัง และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายรูปสนิทมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ไม่คาดคิดมาก่อนว่า..พระคุณเจ้าเหล่านั้นมีพฤติกรรมแบบนั้น แต่เมื่อหลักฐานชัดได้แต่ปลง “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
“เปรียญสิบ” ไม่อยากจะวิพากษ์ “มหาเถรสมาคม” ว่า “อ่อนแอ -ไร้ฝีมือ” เพราะนักวิชาการและสื่อหลายแขนงต่อว่าต่อขานพอสมควรแก่เหตุแล้ว
พูดตรง ๆ หากยุค “สมเด็จนิยม -สมเด็จเกี่ยว” อยู่ สถานการณ์ไม่ “บานปลาย” แบบนี้ จะมี “ทีมล็อบบี้” คุยกับตำรวจ รัฐมนตรี และ “ล็อกตัว” ผู้ถูกกล่าวหา เรียบร้อย ตั้งแต่คืนก่อนเกิดเหตุการณ์แล้ว
“เปรียญสิบ” แม้จะรู้ว่า “พระเหล่านั้น” สมควรถูกลงโทษในฐานะละเมิด “พระธรรมวินัย” ขั้น “ตาลยอดด้วน” แต่ก็อดเสียดายความรู้ความสามารถของพวกท่านเหล่านั้นไม่ได้ บางรูปเป็นถึงเลขาแม่กองธรรม เลขาแม่กองบาลี และเป็นถึงเจ้าคณะปกครอง กว่าคณะสงฆ์จะปั้นและสอนมีท่านเหล่านี้ให้มีศักยาภาพได้ ต้องฝึกต้องสะสมประสบการณ์มาอันยาวนาน
สุดท้าย..พ่ายแพ้ต่อ “สิ่งยั่วยวน” และ “กิเลส” ตนเอง
แต่ “เมื่อพลาด” ในฐานะที่พวกท่านบวชเรียนมานานย่อมคงเข้าใจสัจธรรมที่ว่าคำว่า “กรรมเสมือนเงาตามตัว” ผู้ก่อกรรมย่อมหลีกหนีไม่พ้น..ต้องยอมรับกรรมที่ก่อ
จบเรื่อง “สะเทือนใจ” วงการสงฆ์และชาวพุทธไว้เพียงเท่านี้!!
“เปรียญสิบ” ในขณะที่กำลังปั่นต้นฉบับอยู่นี้ มาร่วมรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีในกิจกรรม ธรรมนาวา “วัง” ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่
“เปรียญสิบ” มักสื่อสารถึงคณะสงฆ์และชาวพุทธอยู่เสมอว่า ประเทศไทยเราโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ “ใฝ่ธรรม” และทรงสนใจในกิจธุระของคณะสงฆ์
ยามนี้พวกเราปฎิเสธไม่ได้ว่าสถาบันสงฆ์เกิด “วิกฤติศรัทธา” แต่พระมหากษัตริย์ก็ทรงมีพระราชศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนาและทะนุบำรุงคณะสงฆ์ มิให้ขาดตกบกพร่อง ยามเข้าพรรษา จะเห็นว่าองค์ในหลวงและพระราชินี บำเพ็ญพระราชกุศลต่อเนื่องทั้งถวายภัตตาหารตามพระอารามต่าง ๆ ทั้งถวายเทียนเข้าพรรษาและทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจน้อยใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์
“เปรียญสิบ” พูดทีไรปลื้มใจทุกครั้ง เมื่อพูดถึง “พระราชศรัทธา” ของในหลวงปัจจุบัน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ “ครองธรรม” โดยแท้ ทั้งในยามปกติหรือในยามที่คณะสงฆ์ประสบ “วิกฤติศรัทธา” สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เคยทรงทอดทิ้งให้เดียวดาย
ความจริงพระคุณเจ้าที่ “ก่อเรื่อง” ล้วนเป็น “พระราชาคณะ” ซึ่งชื่อมันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเป็นพวกของพระราชา บางรูปมีคำว่า “วชิร” หมายถึงเป็นคนของ “พระวชิร” ด้วยซ้ำไป ทำอะไรลงไป “สิ้นคิดสิ้นดี” จริง ๆ
เอาเถอะ!! โลกนี้มันเป็นอย่างนี้ หากเรายอมรับกับ “ความจริง” ได้ และเชื่อ “เรื่องกรรม” เราก็จะอยู่กับความจริงที่เกิดขึ้นได้ และถือว่าท่านเหล่านั้น ประสบเคราะห์กรรมและเสวยกรรมหนัก “ตายทั้งเป็น” แล้ว
“เปรียญสิบ” จึงอยากวิงวอนชาวพุทธโปรดแยกแยะและใช้สติ เวลาที่เหลือจากนี้โปรดให้มหาเถรสมาคม ตำรวจ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยกันประคับประคองสถานการณ์และตรวจสอบข้อเท็จจริง หากผิดพระวินัย ผิดกฎหมายบ้านเมือง ก็ว่าไปตามผิด
พวกเราชาวพุทธ..ต้องร่วมด้วยช่วยกัน อย่าซ้ำเติมสถานการณ์ อย่าพูดเอามันส์ อย่าโพสต์สร้างคอนเทนต์ อย่า “จินตนาการ” ดังเขาว่ามา โดยที่ยังไม่รู้ความจริง!!
หาก “ชาวพุทธ” ทำแบบนี้ถือว่าเป็นผู้หนึ่งในการดำรงตน รักษาพระพุทธศาสนา รักษาพระราชศรัทธา และช่วยประคับประคองรักษาศรัทธาของชาวพุทธ โดยส่วนรวมด้วย!!!
………………………………….
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย… “เปรียญสิบ”: [email protected]
