“ภูมิธรรม เวชยชัย” แจงกระแสเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลยังไม่ชัดเจน แต่ยกย่อง “จักรภพ เพ็ญแข” เป็นคนเก่ง-มีพื้นฐานดี พร้อมเคลียร์ปมที่ดินเขากระโดง-อัลไพน์ให้โปร่งใสทุกคดี ลั่น “ไม่หวงงาน” พร้อมแบ่งงาน รมช.มหาดไทย และชี้การเคลื่อนไหว “ทักษิณ” ไม่เกี่ยวครอบงำนายกฯ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นนายจักรภพ เพ็ญแข ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบอย่างเป็นทางการ “ถึงเวลาเปลี่ยนก็เปลี่ยน ไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน” พร้อมกล่าวว่า ยังไม่มีการหารือในประเด็นนี้ แต่ยอมรับว่าส่วนตัวเห็นว่านายจักรภพเป็นคนมีความสามารถ เคยมีประสบการณ์ทั้งในกระทรวงการต่างประเทศและเคยเป็นโฆษกรัฐบาลมาก่อน แต่ทุกอย่างต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นหลัก
กรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณสมบัตินายจักรภพ ว่าอาจซ้ำรอยอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิชิต ชื่นบาน ที่เคยมีปัญหาทางคดีความ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องยึดตามกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการ “ทุกตำแหน่งทางการเมืองต้องผ่านการตรวจสอบและมีเกณฑ์คุณสมบัติแตกต่างกัน”
ในส่วนของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 5 จ.ศรีสะเกษ นายภูมิธรรมย้ำถึงความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ โดยส่ง น.ส.ภูริกา สมหมาย ลงสนาม พร้อมเปิดเผยว่า นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่แล้ว พร้อมปฏิเสธข่าวว่ามีการจัดข้าราชการต้อนรับตนในการลงพื้นที่ โดยย้ำว่า “ผมไม่ติดใจ หากไม่มีใครมาต้อนรับก็ไม่เป็นไร ขนาดเข้ากระทรวงมหาดไทยยังไม่มีพลแตรเป่าต้อนรับเลย”
ด้านความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ นายภูมิธรรมระบุว่า ได้ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ให้อธิบายภายใน 7 วันว่าเหตุใดจึงไม่ดำเนินการตามคำตัดสินของศาล หากไม่ชัดเจน จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที พร้อมกล่าวถึงคดีที่ดินอัลไพน์ด้วยว่า “ทุกคดีจะต้องได้รับการเคลียร์ให้โปร่งใส ไม่มีข้อยกเว้น”
เมื่อถูกถามถึงการแบ่งงานรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับรัฐมนตรีช่วยทั้งสองคน โดยตนไม่หวงงาน และเตรียมมอบหมายตามความเหมาะสม เบื้องต้นระบุว่า “กรมที่ดิน” จะไม่อยู่ในความดูแลของตน
ส่วนประเด็นร้อนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีการวิพากษ์ว่ามีความเคลื่อนไหวจากนายทักษิณ ชินวัตร อาจเป็นการแทรกแซงการทำงาน นายภูมิธรรมชี้แจงว่า “ทักษิณคือทักษิณ นายกฯคือคนละคนกัน การฟังผู้มีประสบการณ์ไม่ได้หมายความว่าจะถูกครอบงำ และนายทักษิณมีความสามารถในการล็อบบี้ ซึ่งเป็นประโยชน์กับประเทศ”
ในประเด็นด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ได้มีการหารือหลายประเด็น ซึ่งไทยมีจุดยืนชัดเจนเรื่องอธิปไตย และไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง ขอให้ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ส่วนกรณีผลสำรวจของนิด้าโพลที่สะท้อนเสียงประชาชนอยากให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ผลโพลเป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม นายกรัฐมนตรีกำลังชี้แจงข้อกล่าวหา และหากข้อเท็จจริงชัดเจน เชื่อว่า นายกฯจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนได้.
