”อนุดิษฐ์” ชี้การเมืองที่ดีไม่ใช่ใช้ข้อกล่าวหามาเหยียบย่ำทำลายกัน สร้างความเชื่อทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา จ่อตั้งวอร์รูมป้องคนในพรรค
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อข้อกล่าวหามาก่อนข้อเท็จจริง… แล้วใครจะปกป้อง “ความเป็นธรรม” ]
ช่วงนี้หลายคนคงเห็นการอภิปรายและให้สัมภาษณ์ของนักการเมืองบางกลุ่ม ที่พยายามโยงชื่อบุคคลและพรรคการเมืองต่าง ๆ เข้ากับเรื่องราวที่ยังไม่มีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานทางกฎหมายรองรับ
สิ่งที่ทำอยู่ ไม่ได้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือ ติชมด้วยความเป็นธรรม แต่เป็นการใส่ความ ทำให้สมาชิกและพรรคการเมืองนั้นๆเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และเกลียดชัง
ขณะนี้ “ข้อกล่าวหา” ต่างๆ ถูกขยายซ้ำในสังคม จนกลายเป็น “ความเชื่อ” ทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษาหรือข้อเท็จจริงใด ๆ จากหน่วยงานรัฐไทย
พรรคกล้าธรรม ในฐานะพรรคการเมืองที่ยืนบนความรับผิดชอบและความจริง ไม่อาจนิ่งเฉยได้ เมื่อชื่อเสียงถูกใช้เป็นเครื่องมือ และถูกแสวงประโยชน์ทางการเมือง
ผมเชื่อว่า การตรวจสอบทางการเมืองที่ดีและถูกต้อง…
ไม่ใช่การชี้นิ้วกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน แต่คือการยืนหยัดใน “ข้อเท็จจริง” และ “กระบวนการยุติธรรม”
– ไม่มีใครควรถูกตัดสินจากความเชื่อของสังคม
– ไม่มีพรรคไหนควรถูกตราหน้าว่าเลว เพียงเพราะคนกล่าวหามีเครดิตทางสังคม
– ไม่มีนักการเมืองคนไหนสมควรถูกทำลายด้วยข่าวลือ
พรรคกล้าธรรมยืนยันเสมอว่า การเมืองต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง ความรับผิดชอบ และการทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อทำลายล้างกันทางการเมือง
เราเชื่อว่า “ประชาชนวันนี้รู้ทันพอที่จะตั้งคำถาม”
ว่าอะไรคือ “ข้อมูลจริง” และอะไรคือ “ข้อกล่าวหา”
ขอเพียงอย่าหลงลืมว่า
– “ข้อกล่าวหา” ไม่ใช่ “คำพิพากษา” จนกว่าจะถูกพิสูจน์ภายใต้กระบวนการยุติธรรม
– “คำพิพากษา” ต้องเกิดจาก “ข้อเท็จจริง” ไม่ใช่การชี้นำ
– “ความเกลียดชัง” ไม่ควรอยู่เหนือ “ความจริง”
ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ผมจะตั้งวอร์รูมเพื่อตรวจสอบเรื่องที่มีการกล่าวหาบุคลากรของพรรคกล้าธรรมอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะรวบรวมข้อกล่าวหาจากทุกฝ่าย และสืบค้นข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด หากมั่นใจว่าข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแล้ว จะได้นำมาชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบต่อไป
สุดท้ายนี้ ผมยืนยันว่าพรรคกล้าธรรมจะยังคงทำงานด้วยความสุจริต กล้าชน กล้าทำ และกล้ายืนหยัดบนหลักการ
เพราะการเมืองที่ดี…ไม่ใช่แค่การใช้ข้อกล่าวหามาเหยียบย่ำทำลายกัน



















