ธปท.เผยรัสเซียเปิดโจมตียูเครน ทำบาทผันผวน-เงินเฟ้อสูง คาดกนง.รอบหน้าปรับประมาณการเศรษฐกิจ
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ผลกระทบเบื้องต้นต่อประเทศไทย จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน สิ่งแรกคือ เกิดความผันผวนในตลาดการเงิน ซึ่งแม้ไทยจะมีเสถียรภาพด้านต่างประเทศค่อนข้างดี แต่ในระยะสั้นก็ได้รับผลกระทบทำให้เงินบาทผันผวน
ส่วนที่สอง คือ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น เพราะรัสเซีย-ยูเครน เป็นประเทศที่ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ มีความสำคัญต่อ supply chain และส่งผลต่อราคาในตลาดโลกที่เข้ามาในไทยด้วย และอีกส่วนคือทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอลง แต่ไทยเองมีการค้ากับรัสเซียและยูเครนไม่มาก
ส่วนที่สาม ระบบการชำระเงินของไทย คาดว่าจะไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องติดตามทิศทางระบบการชำระเงินของโลกว่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีที่ชาติตะวันตกจะตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) มากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในปีนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องจับตา ดังนั้นน่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนได้จากหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ว่าจะมีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยอย่างไร ทั้งเงินเฟ้อและจีดีพี
“อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงนั้น คาดว่าจะสูงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนจะสูงขึ้นไปอีกนานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนว่าจะใช้เวลายาวนานเพียงใด เพราะจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด และราคาน้ำมันโลก รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทย รวมถึงการระบาดของไวรัสโอมิครอนด้วย คาดว่าสถานการณ์การระบาดน่าจะคลี่คลายได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้”