“ทรงพล” เผยยอดเงินฝากปี 64 ในระบบสถาบันการเงินภายใต้คุ้มครองสคฝ.ทะลุ 1.59 ล้านล้านบาท แม้เผชิญโควิด แนะประชาชนอัพเดทข้อมูลให้แบงก์ที่เปิดบัญชีเป็นปัจจุบันกรณีแบงก์ล้มจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วันตามกฏหมายกำหนด
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยว่า หลังจากที่สถาบันฯปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือเพียง 1 ล้านบาทต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 64 ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ฝากเงินที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวน 82.38 ล้านราย วงเงิน 14.936 ล้านล้านบาท ในปี 64 แม้เผชิญโควิด แต่จำนวนผู้ฝากเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 85.83 ล้านราย เพิ่มขึ้น 3.45 ล้านราย วงเงิน 15.592ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 4.39% หรือ 6.56 แสนล้านบาท
“สถาบันฯพร้อมคุ้มครองผู้ฝากเงินโดยอัตโนมัติ ด้วยการวางระบบเครือข่าย และถ้าเกิดวิฤติสถาบันการเงินแบงก์ล้ม เงินที่มาจ่ายให้ผู้ฝากเงินไม่ได้มาจากภาษีประชาชน แต่มาจากเงินกองทุนคุ้มครองเงินฝาก และวงเงินคุ้มครองยังเป็น 1 ล้านบาทเหมือนเดิม ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ฝากที่ได้รับการคุ้มครองเต็มจำนวนกว่า 98% ครอบคลุมสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองทั้ง 34 แห่ง”นายทรงพลกล่าว
ทั้งนี้เห็นว่าการสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากและความรู้ทางการเงินพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้คือภูมิคุ้มกันที่จะช่วยลดความตื่นตระหนกให้กับประชาชนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือปิดกิจการ
นอกจากนี้ DPAได้พัฒนาเครื่องมือที่จะให้บริการประชาชนโดยเฉพาะระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับการปฏิบัติงานด้านการจ่ายคืนผู้ฝากและการชำระบัญชี อีกทั้งมีการเชื่อมต่อระบบการสื่อสารเป็น Omni Channelเพื่อรวมศูนย์ข้อมูลให้สามารถตรวจสอบข้อมูล ตอบข้อซักถาม ช่วยเหลือประชาชนผู้ฝากได้อย่างทันเหตุการณ์
ด้วยการจำลองสถานการณ์ทดสอบระบบ (Simulation) กระบวนการจ่ายคืนรูปแบบการสื่อสารกับผู้ฝาก รวมถึงการทดสอบระบบร่วมกับหน่วยงานในตาข่ายความมั่นคงทางการเงิน อาทิธนาคารแห่งประเทศไทยพื่อเตรียมความพร้อมการจ่ายคืนผู้ฝากอย่างรวดเร็วกรณีที่สถาบันการเงินมีปัญหาเลิกกิจการจะทำการโอนเงินให้ผู้ฝากเงินภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ผู้ฝากเงินต้องอัพเดทข้อมูลของตัวเอง ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอโดยเฉพาะที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้ กับสถาบันการเงินที่มีบัญชีเงินฝาก และผูกPromptPay กับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝากได้รับการคุ้มครองรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีเงินประมาณ 134,456 ล้านบาท โดยสถาบันการเงินจะนำส่งเงินเข้ากองทุน 0.01% ซึ่งเงินดังกล่าวมีการนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธปท. หรือลงทุนในตราสารหนี้่ที่มีความเสี่ยงต่ำสภาพคล่องสูง