หน้าแรกHighlight“บิ๊กเล็ก”เชื่อ“กัมพูชา”จัดฉากใส่ร้ายไทย รับบทเป็น“ผู้ถูกกระทำ”หวังดึงโลกกดดัน

“บิ๊กเล็ก”เชื่อ“กัมพูชา”จัดฉากใส่ร้ายไทย รับบทเป็น“ผู้ถูกกระทำ”หวังดึงโลกกดดัน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

บิ๊กเล็ก’ คุย ‘เตีย เซยฮา’ ให้หยุดปฏิบัติการทหารในพื้นที่พลเรือน เชื่อ ‘กัมพูชา’ มีแผนจัดฉากใส่ร้ายไทย หวังดึงโลกกดดัน รับบทผู้ถูกกระทำ ‘ฝ่ายไทย’ หวัง AOT ตรวจสอบ ชี้ ผบ.หน่วยระดับพื้นที่ ไม่ต้องรอ ผบ.ทบ. สั่ง ตัดสินใจตอบโต้ได้เลย พร้อมขอ ‘ผู้รู้-ทหารเก่า’ ระวังให้สัมภาษณ์ เหตุ ‘กัมพูชา’ ต่อจิ๊กซอว์ได้


วันที่ 13 พ.ย.68 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ภายหลังฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามายังฝั่งไทยก่อน ว่า เป็นไปตามสถานการณ์ ซึ่งตนได้เน้นย้ำไป 2 มาตรการ คือ เรามีการระงับปฎิบัติการตามปฏิญญาไทย-กัมพูชาแล้ว และ ต้องปกป้องพื้นที่ที่อยู่ในเขตอธิปไตยของไทยตามกฎการใช้กำลัง ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) เป็นการยั่วยุ โดยทางกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ก็ใช้ความระมัดระวังที่จะดำเนินการในพื้นที่ที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ ได้แต่ยิงตอบโต้เพื่อให้เขารับทราบว่า อย่ากระทำอย่างนี้อีก เนื่องจากพื้นที่นั้นมีพลเรือนอาศัยอยู่ จึงไม่น่ากระทำ


พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนได้โทรหา พล.อ.เตีย เซยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา การปฎิบัติการในพื้นที่พลเรือน แม้จะบอกว่าไม่เจตนาก็ตาม แต่ก็ยังเป็นพื้นที่พลเรือน


เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.เตีย เซยฮา ได้บอกอย่างไรบ้าง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เขาได้พูดเหมือนกับที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงออกมา


ส่วนที่ทางกัมพูชาอ้างว่า มีพลเรือนกัมพูชา บาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เราไม่ได้รับทราบว่ามีพลเรือนอยู่บริเวณนั้น ในเมื่อทหารกัมพูชายิงเข้ามาฝั่งเรา ทางเราก็ต้องตอบโต้ ซึ่งครั้งก่อนจะเห็นว่าการยั่วยุเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้า แต่ในครั้งนี้ยิงมาระดับบุคคล แสดงว่ามุ่งหวังชีวิต ซึ่งเรามีหลักฐานคือรอยกระสุนบริเวณบังเกอร์


ดังนั้น เราต้องยิงตอบโต้ ซึ่งเป็นไปตามกฎใช้กำลังอยู่แล้ว สิ่งที่เขาไม่ควรกระทำอย่างยิ่งคือ การปฏิบัติในพื้นที่ที่มีพลเรือนอยู่ อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาก็ทราบดีอยู่แล้วว่า บริเวณนั้นมีพลเรือนอยู่ ซึ่งตนยังมองด้วยซ้ำว่า พลเรือนที่อยู่บริเวณนั้นมาร่วมอยู่ด้วย


เมื่อถามว่า ทางฝ่ายกัมพูชาต้องการยั่วยุให้เกิดสงครามใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนไม่คิดถึงขนาดนั้น ไม่อยากให้เรียกว่าสงคราม จะดูหนักเกินไป แต่เป็นการ ’จัดฉาก‘ เพื่อให้เกิดการปะทะ ว่าเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำ
เมื่อถามว่า เขาหวังใส่ร้ายฝ่ายไทยเพื่อหวังผลหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คิดว่าเป็นอย่างนั้น โดยมุ่งหวังให้ประชาคมโลกหันกลับมาตรงนี้ เพราะเขาทำลักษณะนี้มาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และ บ้านหนองจาน โดยการนำพลเรือนมาออกหน้า แม้รัฐบาลกัมพูชาจะออกมาระบุว่าไม่ได้มีนโยบายเช่นนั้น แต่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นเรามองว่าเป็นเช่นนั้น


เมื่อถามย้ำว่า เขาได้บอกเหตุผลหรือไม่ว่าเหตุใดจึงยิงปืนกลเข้ามาฝั่งไทยถึง 60 นัด พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ก็เขาไม่ยอมรับ


เมื่อถามว่า พล.อ.เตีย เซยฮา ขอให้มีการเจรจาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขออนุญาตที่จะไม่พูด เพราะเป็นการพูดคุยกันส่วนตัว คล้ายโฟว์อาย แต่จุดยืนของเรายังคงเหมือนเดิมคือ จะไม่มีการประชุม ’จีบีซี‘ ซึ่งจะเกิดขึ้นปีละ 1 ครั้ง


ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ โดยต่อจากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้ว เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ รวมถึงปีหน้าก็คงจะไม่มี ต่อไปก็ให้ใช้กลไกของรัฐบาล หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ให้ว่ากัน ในส่วนของจีบีซี ไม่มีอะไรคืบหน้า เมื่อไม่ปฏิบัติตามปฏิญญา ประชุมไปก็เปลืองภาษีประชาชน


ในขณะที่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ยังคงปฏิบัติงาน เหตุการณ์ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ก็ต้องพิสูจน์ทราบต่อไป ซึ่งเป็นข้อตกลงของประเทศอาเซียน ไม่เกี่ยวกับปฏิญญาสันติภาพ


เมื่อถามว่า จะมีมาตรการอื่นอีกหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าเป็นพื้นที่ที่ไม่มีพลเรือน ก็ปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนได้เลย แต่ตนไม่ขอลงรายละเอียด


“ปัจจุบันผมก็เครียดมากพออยู่แล้ว เพราะมีผู้รู้ ทหารเก่า ออกมาพูด จนกระทั่งกัมพูชาสามารถต่อจิ๊กซอว์ได้ ขอความกรุณาสื่อหรือพิธีกรรายการต่างๆ การเปิดเวทีให้บุคคลต่างๆ มาพูด เช่น การกู้ระเบิด ทำให้กัมพูชาสามารถต่อจิ๊กซอว์ได้ เพราะเป็นทหารด้วยกัน ก็จะคิดคล้ายๆ กัน ผมเองก็ต้องคอยดูว่าอะไรที่พูดไปแล้ว ต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะกัมพูชาเขาคาดเดาได้แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมห่วงใยต่อชีวิตน้องๆ ที่อยู่แนวหน้า เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องปฎิบัติการทางทหาร ปรากฏว่าฝ่ายตรงข้ามเขาเตรียมการไว้หมดแล้ว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของน้องๆ“


”ส่วนตัวเข้าใจสื่อมวลชน รวมถึงพิธีกรในรายการต่างๆ ต้องหาข่าวนำเสนอให้ประชาชนเข้าใจ แต่ขอเรียนในมุมด้านการทหาร บางครั้งคนที่พูดไม่เจตนาก็ตาม เพราะเจตนาของเขาต้องการแสดงว่าเขารู้ แต่สิ่งที่เขารู้ จะทำให้กัมพูชารู้ด้วย แต่คงไม่สามารถไปห้ามได้ อยากฝากไปถึงทุกคน เพื่อขอความร่วมมือ ทุกคนที่จะทำให้ข้อความเหล่านั้นออกสู่สาธารณะ เพราะกัมพูชาก็ดูอยู่” พล.อ.ณัฐพล กล่าว


เมื่อถามว่า ประชาชนมีความเป็นห่วงว่าจะเกิดสิ่งใดบริเวณพื้นที่ตามแนวชายแดน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขออนุญาตไม่พูดถึง ในเมื่อเราระงับการปฎิบัติตามปฏิญญาสันติภาพแล้ว สิ่งที่ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้บัญชาการทางทหาร อะไรก็ตามที่อยู่ในพื้นที่อธิปไตยของเรา ขอให้ปกป้องตามกฎการใช้กำลัง เพราะฉะนั้นตนจึงไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ จึงขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชา ว่าต้องการจะคลี่คลายสถานการณ์จริงหรือไม่ ที่ผ่านมาเราใช้แนวทางสันติมาตลอด จนบางครั้งยังถูกตำหนิเสียด้วยซ้ำว่าไม่เข้มแข็ง ไม่เด็ดขาด แต่ถึงเวลานี้เราก็เพิ่มความเด็ดขาดมากขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าระงับปฏิญญา


เมื่อถามว่าความเด็ดขาดในการตัดสินใจอยู่ที่ผู้บัญชาการทหารบกใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มีอยู่ 2 ประการ ระดับอำนวยการก็มีคณะผู้บัญชาการทางทหาร แต่กฎการใช้กำลังมีในทุกระดับ แม้แต่ ผบ.ที่คุมกำลังหน่วยเฉพาะกิจ ที่อยู่แนวหน้า ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ไม่ขอพูดลงในรายละเอียดตนอยากให้สื่อมวลชนสบายใจ ไม่ใช่ต้องรอฟังผู้บัญชาการทหารบกเพียงคนเดียว

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img