โฆษกรัฐบาล เผยนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงต่าง ๆ เร่งผลักดันความร่วมมือกับจีนในด้านการค้า การลงทุน การส่งออกสินค้าเกษตรและประมง รวมถึงการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชน
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กระทรวงต่าง ๆ ขับเคลื่อนความร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในทุกมิติ หลังเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13–17 พ.ย. 2568 ตามคำทูลเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน
นายสิริพงศ์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงที่ได้ลงนามกรอบความร่วมมือกับจีน หรือกำลังเตรียมลงนามในอนาคต ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการอำนวยความสะดวกด้านการค้า การตรวจสอบสินค้า การขนส่ง และการดึงดูดการลงทุน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชน
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลการตรวจสอบ กักกัน และออกใบรับรองสุขอนามัยสินค้าพืช ปศุสัตว์ และประมงที่จะส่งออกไปจีน ให้เป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัย ขณะเดียวกัน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย
นายสิริพงศ์ ยังระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แจ้งความประสงค์จะซื้อข้าวจากไทยจำนวน 5 แสนตัน โดยกระทรวงพาณิชย์จะต้องเร่งทำความตกลงรายละเอียดการส่งมอบ ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมสต๊อกข้าวคุณภาพตามมาตรฐานจีนให้พร้อมสำหรับส่งออก
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง–ล้านช้าง ที่กรุงเทพมหานครในช่วงกลางเดือนธันวาคม พร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรีจีนอย่างสมเกียรติและเรียบร้อย
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนของพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อประชาชนไทยอย่างแท้จริง.
