“เยาวราช” บรรยากาศคึกคักฉลองเทศกาลตรุษจีนปีกระต่าย 2566 ผู้คนแห่ไปทำบุญ ไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชนิดมืดฟ้ามัวดิน
บรรดาพรรคตัวเต็งที่มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง วางคิวโชว์ตัวประชันโฉมหน้าให้เห็นหน่วยก้าน ว่า ใครเหมาะที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป !!
แน่นอน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกวางตัวเป็นนายกฯ คนที่ 30 พร้อมคณะ เป็นมวยจังหวะชิงออกอาวุธลงพื้นที่ก่อน “น้องเลิฟ” เพียงชั่วยาม ปั่นกระแสตีกิน
ฟากน้องเลิฟ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ และระดับแกนนำ เป็นมวยจังหวะสอง ลงพื้นที่ตามหลังเช่นเคย ค่อย ๆ เด้งเชือกสาดอาวุธโชว์เอาแต้มคืน
ถึงวันนี้ทั้ง “2 ป.” มีจุดแข็ง-จุดอ่อน ลูกล่อลูกชนสูสีตีคู่ แต่ “ลุงป้อม” เริ่มโดดเด่น นับตั้งแต่ลุกขึ้นบนบัลลังก์ระหว่างถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมชี้ไปที่ “น้องเลิฟ” ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ “เป็นผู้ยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว” !!!

กลยุทธ์ถอยฉากออกจาก “เงาเผด็จการ” ยืนเคียงข้างประชาธิปไตย เป็นไปตามการสร้างภาพลักษณ์ผู้นำยุคโลกใบใหม่
“บิ๊กบราเธอร์” เดินถึงทางสองแพร่ง แยกทาง “น้องเลิฟ” ต้นเหตุหลักมาจาก เริ่มไม่ฟังกันและกัน โดยเฉพาะการครับครม. พูดเหมือนเข้าหูซ้าย-ทะลุหูขวา และ บริวารซัดกันนัว…ไม่ให้ทีมของน้องเลิฟเหยียบประตูพรรคพลังประชารัฐ
เป็นที่มาของการ “เข็นภูเขาถมทะเล” หาทางขึ้นสู่อำนาจเป็นนายกฯ คนที่ 30 ประเดิมจดหมายเปิดใจฉบับแรก เป็นยาหยุดเลือดไหลออกจากชายคา นับว่าได้ผล
พรรคเริ่มมีชีวิตชีวา บรรยากาศการสัมมนาว่าที่ผู้สมัครส.ส.แต่ละรุ่นคึกคัก เหมือนได้ยาโด๊ป “กลุ่มสามมิตร” นำโดยรมว.ยุติธรรม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เริ่มคิดหนักถึงอนาคตทางการเมือง เพราะเหลือส.ส.อยู่ในกำมือไม่เกิน 3 คน
และนักการเมืองเกรดเอ…ทยอยย้ายเข้ามาระดับ “ซ้อเจน” ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ทิ้งเก้าอี้ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อาสาดูแลพื้นที่จ.กาญจนบุรี “จั้ม” สกลธี ภัทธิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. กลับบ้านเก่าคุมพื้นที่กทม. “ลูกบิ๊กบัง” น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน ขอลงสมัครส.ส.เมืองหลวง
แถมดีล “มือเศรษฐกิจระดับประเทศ” เสริมทัพอย่างน้อย 2 คน อดีตรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจคนหนึ่ง – อดีตรมว.คลัง อีกคน ซึ่งอยู่ระหว่างวางเงื่อนไข ไม่ขอสมัครเป็นสมาชิกได้ไหม
เสริมทัพทีมเศรษฐกิจเพื่อปิดจุดอ่อนพรรค เข้าไปพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศหลังการเลือกตั้ง

แค่จดหมายน้อยฉบับเดียว !! พรรคพลังประชารัฐก็รอดพ้นตกเหว และตามมาด้วยจดหมายน้อยฉบับที่สอง ตอกย้ำคุณสมบัติผู้นำยุคใหม่ของ “ลุงป้อม” เป็นมือประสานสิบทิศ วางเป้าหมายนำพาประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจให้ได้
“บิ๊กบราเธอร์” กำลังติดปีกโบยบิน ก้าวข้าม “หุ้นส่วนอำนาจ” ผลักไปเป็น “ศัตรูคู่แข่งทางการเมือง”
ส่วนทาง “น้องเลิฟ” ทรงยังแบด ว๊ากอย่างบ่อย ถูกรุมกินโต๊ะ ทำได้แค่ ตั้งรับยุทธการถอดหน้ากากคนดีของฝ่ายค้าน และ คอยแก้เกมของทีม “บิ๊กบราเธอร์”
………………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น