“กรุงเทพแซนด์บ๊อกซ์” พื้นที่ไข่แดงของประเทศไทย เตรียมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก 15 ต.ค.64 ภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกับ “ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์”
เดินตามไทม์ไลน์เปิดประเทศ 1 ต.ค.64 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ชนิดเข้มเข้ม เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อน
วันที่ 1 ต.ค.ยังนับเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบทบาทหัวหน้าส่วนราชการที่ถูกเลื่อนขั้น และเป็นวันแรกที่ข้าราชการเกษียณอายุไม่ต้องทำงาน
ยกเว้น “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาพความมั่นคงแห่งชาติ ถูกวางตัวเป็นขุนพลช่วยงาน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ
นับจากวินาทีนี้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายกฯน่าติดตามว่า จะสร้างบ้านหลังใหม่กลับเข้าสู่อำนาจอีกหลังยุบสภา หรือใช้บ้านหลังเดิมค้ำบัลลังก์เก้าอี้นายกฯ อีกสมัย
ล่าสุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดึง “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐคนใหม่
“บิ๊กน้อย” เพื่อนต่างวัยของ “บิ๊กป้อม” เชื่อว่าทำงานเข้าขา “ภูกอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะสองนายทหารต่างวัย ในวงการนักเลงทั่วไทยยกนิ้วให้เป็น “บิ๊กเบิ้ม” แห่งวงการ
แต่กิจกรรมทางการเมืองไม่สะดุดต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นตลอดเส้นทาง
ฉะนั้น “บิ๊กตู่” จะตัดสินใจตั้งพรรคใหม่หรือไม่ ขอให้ดูในช่วงเดือนต.ค.นี้
เพราะเป็นเดือนเริ่มใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 กระทรวงต่างๆ ได้ฤกษ์อนุมัติโครงการ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยตามยุทธศาสตร์
คนวงในรู้กันดีจะมีขวัญถุง หรืองเงินทอน (kick back) ตกถึงมือเจ้าของโครงการที่ล็อกซื้อไว้ในชั้นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี
รวมถึงการใช้งบกลาง 571,047 ล้านบาท ซึ่งมีแค่หัวโครงการ ไม่มีรายละเอียด ถูกเปรียบเปรย “ตีเช็คเปล่า” ให้ผู้มีอำนาจ
“เป็นเดือนที่นักการเมืองชอบที่สุด เพราะมีโอกาสได้รับเงินทอนจากโครงการต่างๆ รวมถึงโครงการจากงบกลาง หากเบรกไม่ปล่อยงบให้เอื้อกับบางพวก บางกลุ่มก็ทำได้ เพื่อตัดลดอำนาจทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม” นักการเมืองที่เป็นส.ส.หลายสมัยและอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งระบุ
ข้อมูลตรงกับนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) สะท้อนให้สังคมได้เห็นถึง “งบประมาณแผ่นดิน…ไม่เคยโปร่งใส”
พุ่งเป้าไปที่ “งบกลาง” ซึ่งมีคนในเป็นผู้วางแผนและมีประสบการณ์ตรงเท่านั้นที่รู้ ถึงการใช้งบแก้ผลประทบจากโควิด สร้างงานในพื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ “มีเงินทอน”
งบลงทุนสำหรับกลุ่มจังหวัดและจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดเป็นโครงการที่มีประโยชน์ แต่หลายจังหวัดเน้นซ่อม สร้างถนน ขุดบ่อน้ำ ซึ่งตั้งงบโครงการละ 50 ล้านบาทเท่ากันมาเกือบทุกปี คล้ายตั้งงบก่อนแล้วถึงดึงโครงการไปลงพื้นที่
ที่สำคัญโยงถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับนักการเมือง เป้าหมายของนักการเมืองที่มีบารมีถึงต้องการเป็นรมว.มหาดไทย
และนักการเมืองยังมีพฤติกรรมแย่งกันส่งพวกพ้องไปนั่งเป็นอนุกรรมาธิการชุดต่างๆ ในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ โดยมีขาใหญ่คุมหน่วยงานรับงบประมาณ เพื่อเปิดไฟเขียวให้ผ่านตลอดในชั้นคณะกรรมาธิการฯ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯถึงขั้นปิดท้ายให้เห็นว่า คอร์รัปชันในการจัดทำงบประมาณ เป็นผลพวงของคอร์รัปชันในกระบวนการนิติญัตติ เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน โกงงบกลาง สมคบคิดผลักดันเกาหลัง
นับเป็นการก่ออาชญากรรมฆ่าประเทศ ผ่านการโกงชาติจากต้นน้ำ ที่มีคนรู้เห็นมากหมาย อีกนานแค่ไหนถึงจะมีรัฐบาลออกแบบกระบวนการจัดทำงบประมาณแผ่นดินที่โปร่งใส
………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย…”ราษฎรเต็มขั้น”