วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“พลังประชารัฐ-เพื่อไทย-ก้าวไกล” ถูกบอนไซ...?
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พลังประชารัฐ-เพื่อไทย-ก้าวไกล” ถูกบอนไซ…?

“พรรคสร้างอนาคตไทย” เปิดตัวได้ถูกจังหวะ ตามท้องเรื่องที่ “รัฐบาลลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ถูกตีตราบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว

ของแพงทั่วแผ่นดินคือใบเสร็จมัด “ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลลุงตู่”

แม้รัฐบาลรู้ล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปี 64 ว่าต้นทุนเกือบทุกรายการ ตั้งแท่นปรับตัวขึ้นราคา เพราะภาคธุรกิจ ราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก แห่ขยับขึ้นรารา ค่าเงินบาทผันผวน

ย่อมกระทบต่อวัตถุดิบนำเข้า ทั้งอาหาร เหล็ก ทองแดง น้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าแรงงาน ค่าบริหารจัดการโควิด-19 ของสถานประกอบการ

เถ้าแก่ต้นทุนเพิ่มขึ้น เงินในกระเป๋าของ “กรรมกร” แฟบลง ข้าวของแพงหูฉี่

มรสุมวิกฤติสารพัดลูก ถาโถมถล่มรัฐบาลแทบตั้งตัวไม่ติด ยังไม่นับร่วมปัญหาผึ้งแตกรังภายใน “พรรคพลังประชารัฐ”

แถมศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร จะเป็นสนามทดสอบความเป็นปึกแผ่นในพรรคพลังประชารัฐและกระแสต่ำเตี้ยเรี่ยดินของรัฐบาล

หากผลการเลือกตั้งออกมาซ้ำรอยประวัติศาสตร์เลือกตั้งซ่อมจ.สงขลา และจ.ชุมพร รับรองสั่นสะเทือนเสถียรภาพของรัฐบาล และเป็นชนวนเร่งให้ “ฝีหัวช้าง” ภายในพรรคพลังประชารัฐแตกเร็วยิ่งขึ้น

ถึงขั้นต้องปรับทัพ เปลี่ยนยุทธศาสตร์การเมืองกันใหม่ แม้ล่าสุด “ฝีหัวช้างแตก” ภายหลังกลุ่มภายในพรรคพลังประชารัฐที่ถูกตีตราว่าขึ้นอยู่กับ “สายลุงตู่”

เล่นเอากลบกระแสข่าวการเปิดตัวพรรคอนาคตไทย ขั้วการเมืองที่สามไปบัดดล

เวทีปราศรัยจ.สงขลา/ พรรคพลังประชารัฐ

โดยกลุ่ม “สายลุงตู่” ผนึกกกำลังกับกลุ่มที่ไม่พอใจ “ภูกอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า บี้ให้พ้นตำแหน่งเลขาธิการพรรค ล่าสุดกก.บห.มีมติขับให้พ้นชายคาพร้อมส.ส.ในกลุ่มอีกประมาณ 20 คน

แถมมีร้อยปริร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล ในช่วงท้ายเทอมของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ถึงกับหยอดน้ำผึ้งสมานบาดแผลระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ กลางวงครม.นัดล่าสุด หลังเสร็จศึกเลือกตั้งซ่อม 2 เขตในจ.สงขลาและจ.ชุมพร

“ขอให้ทุกฝ่ายทำงานด้วยความรักและความสามัคคีต่อไป เรื่องการเมืองได้คลี่คลายแล้ว ขออย่าได้ขยายให้เกิดความแตกแยก”

ตอกย้ำภาพความขัดแย้งรุนแรง ต้องใช้เวลาสมานแผลใจ แต่วิกฤติเฉพาะหน้า รอไม่ได้อีกต่อไป ต้องการความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาลผสม เพื่อประคองสถานการณ์ให้อยู่ตลอดรอดฝั่ง

นับเป็นปรอทวัดบารมี “กลุ่ม 3 ป.” จะจัดการปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลได้อยู่หมัดหรือไม่

เพราะ “กลุ่มภูกอง” ต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน เพื่อรักษาสมาชิกภาพความเป็นส.ส. เท่ากับว่ากลุ่มนี้ย่อมเป็น หอกข้างแคร่ “รัฐบาลลุงตู่” ในสภาฯ ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะสภาเผชิญปัญหาล่มซ้ำซาก

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะถอยฉากลงจากหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพื่อให้สาย “บิ๊กตู่” ขึ้นนำทัพแทน

ความปั่นป่วนภายในพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางกระแส “ตัดตอนพรรคใหญ่” ไม่ให้โตเบ่งบาน

ทั้ง “พรรคพลังประชารัฐ-พรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกล” ต่างมีคดียุบพรรคยืนอยู่ปากเหว

ลุ้น “กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้ขาด…บอนไซพรรคใหญ่ หรือปล่อยผ่าน

………………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก

โดย..#ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img