ทำความรู้จัก ร่างพระราชบัญญัติประวัติอาชญากรรม ของกระทรวงยุติธรรม โดยกฎหมายฉบับนี้ มุ่งหวังการส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชน ให้ผู้พ้นโทษ ผู้ต้องหาที่มีคดีอาชญากรรมสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขในสังคม
เหตุผลร่างพระราชบัญญัติประวัติอาชญากรรม
บุคคลที่มีประวัติอาชญากรรมติดตัว ยากแก่การทำงาน หรือเข้าสังคม
ส่งผลให้ผู้เคยต้องโทษ หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำ
ทำให้เกิดปัญหาเรือนจำแออัด นักโทษล้นคุก
มีความจำเป็นต้องมีกฎหมาย เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลประวัติอาชญากรรม
สาระสำคัญในร่างกฎหมายประวัติอาชญากรรม
มีคณะกรรมการบริหารจัดการข้อมูลประวัติอาชญากรรม รวม 11 คน
กําหนดนโยบายการจัดการ พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูล
มีข้อกำหนดการเปิดเผยและไม่เปิดเผยซึ่งประวัติอาชญากรรม
มุ่งสร้างความสมดุลระหว่างการคุ้มครองสังคม และการให้โอกาสผู้กระทำความผิด
กรณีห้ามมิให้มีการเปิดเผยประวัติอาชญากรรม
เจ้าของประวัติกระทำขึ้นในขณะเป็นเด็กหรือเยาวชน
เจ้าของประวัติซึ่งได้รับการล้างมลทินตามกฎหมาย
พ้นระยะ 5 ปี นับแต่พ้นโทษตามคำพิพากษา และมิได้กระทำความผิดใดอีก
ศาลมีคำพิพากษา คดีประมาท ความผิดลหุโทษ
ความผิดที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
ความผิดอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
เจ้าของประวัติมีสิทธิปฏิเสธถึงการมีอยู่ของประวัติอาชญากรรมของตนได้
กรณีให้เปิดเผยประวัติอาชญากรรม
ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย
ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ
ความผิดเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
ความผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณี
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งกระทำโดยเจตนา
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น หรือชำเราเด็ก
ความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่
ความผิดที่มีลักษณะร้ายแรง เช่น พฤติกรรมร้ายแรง โหดร้ายทารุณ หรือกระทำทรมาน
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสังคม
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เฉพาะการผลิตจำหน่าย นำเข้าหรือส่งออก
บทลงโทษกรณีฝ่าฝืนกฎหมายประวัติอาชญากรรม
ผู้ทำหน้าที่จัดเก็บ เปิดเผยประวัติอาชญากรรมโดยไม่ชอบ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่นำข้อมูลประวัติอาชญากรรมของผู้อื่นไปใช้ และทำให้เจ้าของประวัติเสียหาย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 250,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลประวัติอาชญากรรม และนำไปใช้หรือเปิดเผยทำให้เจ้าของประวัติเสียหาย จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คุ้มครองสื่อฯ ที่ใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ
การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ทำการเก็บรวบรวมไว้เฉพาะเพื่อกิจการสื่อมวลชน งานศิลปกรรม หรืองานวรรณกรรมอันเป็นไปตามจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพหรือเป็นประโยชน์สาธารณะเท่านั้น เป็นการกระทำที่ไม่มีความผิด
ความคืบหน้าการคัดแยกเพื่อลบประวัติอาชญากรรม
สตช.จัดโครงการล้างประวัติทำความดี ล้างความผิดคืนชีวิตให้ประชาชน
คัดแยกและจัดการประวัติที่มีอยู่แล้ว 12,000,000 รายที่ตกค้าง
ปัจจุบัน เหลืออีก 1,000,000 กว่ารายการที่กำลังดำเนินการ
พบว่ามี 150,000 รายการ ที่คัดแยกเพื่อลบประวัติได้
เงื่อนไขหลัก อัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ศาลไม่ประทับรับฟ้อง ศาลยกฟ้อง
……………
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม
ที่มาข้อมูล : รายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง “แนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดการข้อมูลประวัติอาชญากรรม”