“สวนชูวิทย์” ที่ดินหลายพันล้านใจกลางสุขุมวิท กลายเป็นประเด็นร้อน ที่ถูกฝ่ายตรงข้าม หยิบยกนำมาโจมตีจอมแฉอย่าง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อย่างต่อเนื่อง
เพราะในช่วงที่ “ชูวิทย์” ตกเป็นจำเลยในคดีรื้อบาร์เบียร์ มีการทำสัญญาเอาไว้กับศาลเพื่อขอลดโทษ ในเชิงว่า ตัวเขาพร้อมยกที่ดินในส่วนนี้ ให้ใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ และสร้างเป็นสวนสาธารณะ เป็นปอดกลางเมืองให้กับชาวสุขุมวิท โดยลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท
แต่ปัจจุบัน มีการรื้อถอนอาคารในสวนชูวิทย์ทั้งหมดทิ้งไป เพื่อก่อสร้างโครงการ “เทนธ์ อเวนิว” เมกะโปรเจ็กต์ขึ้นมา มีเจ้าของโครงการ เป็นทายาทของ “ชูวิทย์” ทั้ง 4 คน
จากการตรวจสอบเอกสาร ทำให้ทราบว่า บริษัท เดวิส ซิลเวอร์ สตาร์ ของ “ชูวิทย์” ได้ขออนุญาตเขตคลองเตยครั้งแรกวันที่ 1 เม.ย.2564 เพื่อก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนอาคาร ภายในสวนชูวิทย์ ที่ระบุรายละเอียดว่า จะรื้ออาคาร คสล. 1 หลัง ซุ้มประตัว และรั้ว เพื่อใช้เป็นที่ว่าง ครอบคลุมที่ดิน 18 โฉนด รวม 6 ไร่เศษๆ จากนั้น มีการต่อใบอนุญาตรื้อถอนครั้งที่ 2 และมีกำหนดถึงวันที่ 25 เม.ย.2565
สำหรับโครงการนี้ ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 หนังสือเห็นชอบที่ ทส.1010.5/1264 ก่อสร้างบนพื้นที่ดินทั้งหมด 6-0-53.2 ไร่ หรือ 9,812.80 ตารางเมตร
สภาพภูมิประเทศบริเวณพื้นที่ตั้งโครงการ บริเวณด้านหน้าโครงการอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นพื้นที่ว่างรอการใช้ประโยชน์ อาคาร คสล. สูง 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และไม้ยืนต้นจำนวน 42 ต้น ซึ่งจะทำการรื้อถอนช่วงเดือนเมษายน ถึงมิถุนายน 2565
เปิดรายงานอีไอเอ เมกะโปรเจ็กต์ “ชูวิทย์”
จากการตรวจสอบรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ระยะก่อสร้างวางเสาเข็มฐานราก โครงการสำนักงาน พาณิชยกรรม สถานศึกษา สถานพยาบาล เทนธ์ อเวนิว และโรงแรมดิแบงค็อก คอลเล็คชั่น พบรายละเอียดดังนี้
สำหรับโครงการนี้ ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 หนังสือเห็นชอบที่ ทส.1010.5/1264 ก่อสร้างบนพื้นที่ดินทั้งหมด 6-0-53.2 ไร่ หรือ 9,812.80 ตารางเมตร สภาพภูมิประเทศบริเวณพื้นที่ตั้งโครงการ บริเวณด้านหน้าโครงการอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท
มีจำนวนห้องพัก 200 ห้อง จำนวน 1 อาคาร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ความสูง 51 ชั้น ชั้นลอย 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น เป็นรูปแบบ Mixed Use ประกอบด้วย
-พื้นที่สำนักงาน ขนาด 28,226 ตารางเมตร
-พื้นที่พาณิชย์ ขนาด 2,275 ตารางเมตร
-พื้นภัตตาคาร ขนาด 576 ตารางเมตร
-พื้นที่ห้องประชุม ขนาด 400 ตารางเมตร
-พื้นที่สถานศึกษา ขนาด 180 ตารางเมตร
-พื้นที่สถานพยาบาล ขนาด 160 ตารางเมตร
-พื้นที่โรงแรม ขนาด 10,440 ตารางเมตร มีที่จอดรถทั้งหมด 770 คัน
ที่ผ่านมา ในรายงานอีไอเอ พบว่ามีการตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้าง โดยสำนักงานเขตคลองเตยอยู่เป็นระยะ
“ชัชชาติ” แจงปมใบอนุญาตรื้อถอนอาคารสวนชูวิทย์
ด้าน “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีสวนชูวิทย์ ที่มีบางกลุ่มเรียกร้องว่า เป็นที่ดินที่มอบเป็นที่ดินสาธารณะแล้ว ว่าหลังรับทราบข้อขัดแย้งเรื่องที่ดินสาธารณะ ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีผู้อำนวยการเขตคลองเตย เป็นหัวหน้า ตรวจสอบสถานะที่ดินดังกล่าว ว่าเป็นที่สาธารณะหรือไม่ หากได้ผลพิจารณาออกมา จะได้แจ้งต่อสาธารณชน
ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น สามารถไปที่ยื่นอุทธรณ์คำร้องที่กระทรวงมหาดไทยได้ ส่วนหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร คือให้ความยุติธรรมให้มากที่สุด
ชี้ใบอนุญาตรื้อถอนเขตคลองเตย ไม่เกี่ยวข้อพิพาท
สำหรับเรื่องใบอนุญาต รื้อถอน ที่อนุญาตให้ บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด นั้น ทางบริษัทได้มายื่นเรื่องกับสำนักงานเขตคลองเตยในการรื้อถอนอาคาร เป็นอาคารชั้นเดียว ที่อยู่ในพื้นที่เดิม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อพิพาท ซึ่งการดำเนินการก็ปล่อยให้เป็นไปตามระเบียบ และขณะนี้อาคารหลังดังกล่าวรื้อถอนเสร็จแล้ว
ส่วนการก่อสร้างอาคารใหม่ โครงการ “เทนธ์ อเวนิว” นั้น ถือเป็นความเสี่ยงของผู้ลงทุนเอง โดยผู้ว่าชัชชาติ ย้ำว่า ทางกทม.จะไปยุติใบอนุญาตไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายให้ดำเนินการ และยังไม่ได้พบการกระทำความผิด ก็ต้องให้กระบวนการยุติลงก่อน
สำหรับโครงการนี้ แน่นอนว่า “ชูวิทย์” ตั้งใจทิ้งให้เป็นมรดกชิ้นสำคัญของลูกหลาน จากการใส่ชื่อลูกๆ ทั้ง 4 คน เป็นกรรมการบริษัทแห่งนี้
ประเด็นที่ถูกโจมตี เรียกร้องให้ที่ดินแปลงใหญ่กลางเมือง กลายเป็นที่สาธารณะนั้น จึงไม่แปลกที่ “ชูวิทย์” ต้องยอมทิ้งไพ่หมดหน้าตัก เพื่อปกป้องสมบัติของ “ตระกูลกมลวิศิษฎ์” เอาไว้ให้ได้นั่นเอง
…………………………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม