งานประชุมระดับโลก GC Circular Living Symposium 2020 ร่วมมือกันเพื่อวันพรุ่งนี้ ตอกย้ำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ภาคปฏิบัติ พลิกวิกฤตทรัพยากรโลกอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.พีทีที โกลบอล เคมีคอล หรือ GC ร่วมกับพันธมิตร จัดงานประชุมระดับโลก ภายใต้งาน GC Circular Living Symposium 2020: Tomorrow Together ชู Circular in Action จากแนวคิดสู่การปฏิบัติจริง ตอบโจทย์การดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ พลิกวิกฤตสู่โอกาสในการปฏิวัติการใช้ทรัพยากรโลกอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้น โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล เปิดเผยระหว่างการเสวนาว่า GC ได้ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความยั่งยืน ด้วยการสร้างสมดุล ระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน มาประยุกต์ใช้ในองค์กร ภายใต้แนวคิด GC Circular Living เป็นกุญแจดอกสำคัญ โดยมี 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ
1.Smart Operating การนำเทคโนโลยีแบบใหม่มาพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิต ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดย GC มีเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากกระบวนการผลิตลง 20% ภายในปี 2030 และลดความเข้มข้นของการปล่อย GHG ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ลง 52% ภายในปี 2050 โดยมีเป้าหมายในการลด GHG ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งหมด GC ยังเป็นผู้นำที่มีทิศทางการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคตโดยขยายขอบเขตจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ออกสู่โซ่คุณค่าทางอ้อมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (GHG Scope 3) ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดนี้ มีส่วนสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก
2.Responsible Caring การคิดค้น พัฒนา และออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการนำขยะพลาสติกมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ก่อสร้าง ยานยนต์ ที่เลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาลงเพื่อลดพลังงานและประหยัดต้นทุน
3.Loop Connecting การสร้างและขยายความร่วมมือร่วมกับทุกภาคส่วน รวมถึงผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อขยายผลสำเร็จและเชื่อมต่อธุรกิจให้ครบวงจร
อย่างไรก็ตามต้องมี 4 ปัจจัยที่นำพาไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่ Thought Leader ผู้นำความคิด นวัตกรและนักธุรกิจจากทั่วโลกมาร่วมแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปใช้เพื่อขับเคลื่อนโลกร่วมกัน, Innovation นวัตกรรมจะช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ มีสินค้าที่ผลิตด้วยแนวคิด เซอร์คูลาร์อีโคโนมี ออกมาได้จริง, Business Model การออกแบบธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ และ Ecosystem การสร้างระบบนิเวศเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนสามารถอยู่ร่วมกันได้
“GC พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นด้านขยะ น้ำ หรือ อากาศของประเทศ โดยมุ่งเน้นให้มีการแก้ไขอย่างยั่งยืนและบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างจริงจัง GC หวังเป็นอย่างยิ่งว่า GC Circular Living Symposium 2020 จะช่วยพลิกโฉมอนาคต สร้างแรงผลักดันให้ทุกคนร่วมมือกันด้วยจิตสำนึกและความรับผิดชอบ พร้อมนำแนวทาง GC Circular Living ไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวัน ในแบบ Circular in Action และ สร้างสรรค์วัฒนธรรมหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เริ่มกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อเราทุกคนจะได้สร้าง “วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” ร่วมกัน”ดร.คงกระพัน กล่าวและว่า แม้ว่าแนวทางการดำเนินงานของเศรษฐกิจหมุนเวียนจะมีต้นทุน แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจที่ช่วยสร้างโอกาสในการเจาะตลาดสินค้าที่สอดคล้องกับกระแสรักษ์โลกที่ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ต่าง ๆ ก็ได้เริ่มดำเนินการในแนวทางนี้กันแล้ว
คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คุณธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธํานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC “Leaders on Sustainability in Action”
ส่วนความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ดร.คงกระพัน กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุนในโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่สหรัฐฯ คาดว่า มีความชัดเจนในกลางปี 64 และหากบริษัทฯ ยังไม่สามารถหาพันธมิตรร่วมทุนได้ บริษัทฯก็ยังไม่มีการลงทุนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ เพราะไม่ต้องการลงทุนโครงการนี้เพียงผู้เดียว เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนสูงประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท ขณะที่แผนลงทุนซื้อกิจการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาหลายโครงการในต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นเข้าซื้อกิจการในโครงการที่จีซี ยังไม่มีสายการผลิต เช่น โรงงานเม็ดพลาสติกวิศวกรรมประเภทพีพีคอมพาวด์ ซึ่งจะพยายามลงทุนซื้อกิจการภายในปีหน้า