‘คุณหญิงสุดารัตน์’ ลุยพ่นยา-แจกหน้ากาก เคหะบางเขน-หลักสี่ แนะรัฐ ล็อคดาวน์บุคคล เร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อแทนล็อกดาวน์พื้นที่สั่งปิดการทำมาหากิน เร่งพักหนี้ เร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และผ่อนปรนการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้ประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เดินหน้าต่อเนื่องโครงการรวมพลังสู้ภัยโควิด ฉีดพ่นน้ำยาป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมแจกหน้ากากอนามัย แก่ชาวประชาชนในหลายพื้นที่กรุงเทพมหานคร เริ่มจาก หมู่บ้านสหกรณ์เขตบึงกุ่ม ร่วมกับนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพมหานคร จากนั้นเดินทางต่อมายัง หมู่บ้านเอื้ออาทร ถนนคู้บอน เขตบางเขน ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น มี 83 ตึกๆ 45 ห้อง รวมประชากรประมาณ 4,000 คน โดยมีนายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส. กทม. พร้อมคณะทำงาน คอยประสานงานและดำเนินการ
จากนั้นทั้งคณะได้ฉีดพ่นน้ำยาป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 และแจกหน้ากากอนามัย ที่เคหะชุมชนหลักสี่ เขตหลักสี่ กทม. โดยมีนายสุรชาติ เทียนทอง อดีตส.ส.กทม. พร้อมคณะทำงาน คอยประสานงานและลงพื้นที่ แจกอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง พร้อมพูดคุยกับประชาชนพ่อค้าแม่ขาย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ซึ่งพบว่าการค้าขายเป็นไปด้วยความยากลำบาก รายรับตกลงกว่าครึ่ง และต้องพบกับปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบ
หลังลงพื้นที่ คุณหญิงสุดารัตน์ แสดงความห่วงใยประชาชนในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐบาล ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันและแก้ปัญหาการระบาดรอบใหม่ และยังใช้การทำงานด้วยระบบราชการ ซึ่งพบว่ามีการตั้งหน่วยงานคณะกรรมการที่ซ้ำซ้อน และยังมีปัญหาด้านการสื่อสาร ที่ไม่มีความชัดเจนทำให้ประชาชนสับสน ส่วนมาตรการที่จะล็อกดาวน์พื้นที่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์เห็นว่า ไม่จำเป็นเท่ากับการล็อคดาวบุคคล โดยเฉพาะการเร่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยความรวดเร็วและครอบคลุม
คุณหญิงสุดารัตน์ ขอเป็นตัวแทนของคนตัวเล็ก ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ขาย และคนหาเช้ากินค่ำ สะท้อนปัญหาพร้อมนำเสนอแนวทางการดูแลประชาชน โดยเฉพาะในมิติทางเศรษฐกิจ ที่ต้องเร่งทำควบคู่ไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพ คือ
1.) พักชำระหนี้ให้ประชาชน ที่มีหนี้สินครัวเรือนสูงขึ้น รายได้ลดลง โดยเฉพาะเกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อย
2.) เงินช่วยเหลือ ชดเชยรายได้ ที่รัฐควรจัดสรรให้ พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อย ต่างๆโดยเฉพาะกับ SMEs และ 3) เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจ ประคับประประคองตัวเองได้ ซึ่งรัฐบาลมีเงินอยู่แล้ว จากการกู้รอบแรก รวมถึง เงินก้อนที่อยู่ในส่วนของ Soft Loan จากธนาคารแห่งประเทศไทย