ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 31.46 จุด ตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังเฟดเรียกประชุมฉุกเฉินคืนนี้ หลังจากที่ตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลพุ่ง ขณะที่นักลงทุนสถาบันเทขายกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท ชู 6 หุ้นหลบภัย
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก หรือ GBS เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,558.05 จุด ลบ 31.46 จุด หรือ 1.98 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,592.72 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,556.73 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82,448.41 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงตามตลาดต่างประเทศจากความกังวลการเรียกประชุมฉุกเฉินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันนี้
หลังดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.9%และ 0.6%MoM สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นและเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ทำให้มีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงหนัก
สำหรับหุ้นที่กดตลาดเป็นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก แบงก์ ไฟแนนซ์ และอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่มูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 13,412.03 ล้านบาทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,563.82 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,594.90 ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 9,253.31 ล้านบาท
ส่วนปัจจัยที่ติดตามคืนนี้นอกจากการประชุมเฟดแล้ว ยังต้องจับตาการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่จะเชื่อมโยงภาพรวมเศรษฐกิจว่าจะถดถอยหรือไม่ โดยสหรัฐจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย. ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนส.ค. ส่วนในประเทศเกาะติดสภาผู้ส่งออกแถลงสถานการณ์การส่งออก
อย่างไรก็ตาม ถ้าผลการประชุมคืนนี้ไม่ได้ออกมาทิศทางที่แย่ หุ้นมีโอกาสรีบาวด์ทางสัญญาณทางเทคนิค เนื่องจากเครื่องมือ RSI เข้าสู่ภาวะ Oversold และดัชนีปรับตัวลงติดต่อกัน 7 วันทำการทำให้มีลุ้นว่าดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ได้ โดยมีแนวรับแรกที่ 1,536 จุด แนวรับถัดไป 1,547 จุด ต้านที่ระดับ 1,569-1,580 จุด กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากส่งออกเติบโตในกลุ่มน้ำตาล ไก่สด แช่แข็ง อัญมณีและเครื่องประดับ แนะนำ BRR ,KSL, TFG ,GFPT ,ASIAN, JUBILE