“นักวิชาการอิสระ” ตอกย้ำ “เวฟสอง” ของการระบาดโควิด-19 มาเร็วแบบตั้งตัวไม่ทัน จวกยับพวกแก็งค์หิ้วคนข้ามฝั่ง รวมถึงนายจ้างเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนไม่กี่คน ทำเศรษฐกิจของสมุทรสาครพัง แนะให้สั่ง Full Lockdown แบบเต็มสูบ และ Semi Lockdown กรุงเทพฯบางส่วนสัก 7 วัน เพื่อดูผลของผู้ติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.63 นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Pat Hemasuk ระบุว่า “สิ่งที่ผมเขียนเอาไว้เพียงข้ามวัน ก็เป็นจริงอย่างที่ผมกลัว จาก 7 คนตอนที่ผมเขียน กลายเป็นห้าร้อยกว่าคนในช่วงข้ามวัน นั่นคือเสียงระฆังของเรือไตตานิกก่อนชนภูเขาน้ำแข็ง อย่างที่ผมเขียนเอาไว้ตอนจบเมื่อวันก่อน
แต่นั่นคือการสุ่มตรวจแรงงานต่างชาติเพียงพันกว่าคน แล้วมีอัตราการติดเชื้อ 43% สมการคณิตศาสตร์ยกกำลังสองของการติดเชื้อกำลังทำงานอยู่ในเวลานี้ ถ้าจะให้คำนวนย้อนหลังไปถึงวันระบาดเริ่มแรกแบบเงียบ ๆ ก็เพียงสองสัปดาห์กว่า ๆ มานี้เอง ที่คนต้นเชื้อกลุ่มแรกกระจายเชื้ออกมา ซึ่งสัมพันธ์กับเวลาของเชื่้อกำลังระบาดหนักในพม่า ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากกว่านี้ เพราะคนที่มีหน้าที่คงจะเข้าใจดีกว่าผม ถึงสมการกำลังสองของระบาดวิทยาตัวนี้ ถ้าจะเอาคนที่ติดเชื้อในกรุงเทพเข้าไปรวมด้วย รายที่ไปซื้อของที่มหาชัย ก็จะใกล้เวลาที่ผมประเมินการเริ่มต้น
นั่นหมายความว่าในชุมชนแรงงานในย่านนั้น ถ้ามีการตรวจเชื้อแล้วยึดถือตัวเลข 43% เป็นฐานคำนวนคนกลุ่มใหญ่ นั่นหมายถึงคนหลักพันหลักหมื่นหรือหลายหมื่นที่อาจจะต้องเจอว่าติดเชื้อในพื้นที่นั้น นั่นคือการระบาดเวฟที่สองอย่างสมบูรณ์แบบแล้วที่มหาชัยในชั่วโมงนี้ ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าผมอีกเช่นกัน ดังนั้นการติดตามไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ คงไม่จำเป็นแล้วอีกต่อไป สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือล็อกดาวน์สมุทรสาครเพื่อเซฟกรุงเทพเอาไว้ไม่ให้เป็นแบบหลายประเทศที่รักษาเมืองหลวงและเมืองใหญ่ใกล้เคียงเอาไว้ไม่ได้ ตัวอย่างของกรุงมนิลา กรุงจาร์กาตา กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองร่างกุ้ง กรุงฮานอย และที่อื่น ๆ คงเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงานวันพุ่งนี้ว่าเราจะไม่เป็นแบบนั้น
และในทำนองเดียวกันต้อง semi-lockdown กรุงเทพตั้งแต่พรุ่งนี้ ก็ควรทำได้แล้วสัก 7 วัน เพื่อดูจำนวนผู้ติดเชื้อในกรุงเทพ ถ้ายังไม่หยุดก็คงต้อง Full Lockdown กันยาวขึ้น เหมือนตอนเดือนเมษา-พฤษภาที่ผ่ามา มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่ต้องทำแบบนี้ เพราะเวฟสอง (2nd Wave) มันจู่โจมเร็วมากแบบตั้งตัวไม่ทัน และใกล้กรุงเทพมากจนน่าวิตกของการระบาดข้ามจังหวัดมา แรงงานพม่านับแสนคนที่นั่น ต้องมีสักส่วนหนึ่งที่เข้ามาในกรุงเทพกันบ้าง จากการทำงานส่งสินค้าประจำวัน หรือไม่ก็มาพักผ่อนวันหยุด นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะอ้างเหตุผลในการ semi-lockdown ในวันพรุ่งนี้
ถ้ายังจำได้ว่า ผมเคยพูดว่าผู้หญิงอาชีพพิเศษไม่กี่คนทำเศรษฐกิจเชียงใหม่-เชียงรายพินาศ ในช่วงพีคของฤดูการท่องเที่ยวหน้าหนาวนับหลายร้อยล้านบาทหรือชนพันล้านก็เป็นไปได้ และในการระบาดเวฟสองในครั้งนี้ พวกแก็งค์หิ้วคนข้ามฝั่ง รวมถึงนายจ้างเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนไม่กี่คน ทำเศรษฐกิจของสมุทรสาครพังหลายพันล้าน และถ้าการระบาดจากสมุทรสาครเข้ามาถึงกรุงเทพได้นั้น คือความเสียหายหลายหมื่นล้านที่ต้องจ่ายไปในครั้งนี้ ที่เริ่มจากพวกที่เห็นแก่ตัวไม่กี่คน
ผมได้แต่หวังให้ผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องสั่ง Full Lockdown สมุทรสาคร ในวันพรุ่งนี้พร้อมกับตะลุยปูพรมหาผู้ป่วยทั้งพื้นที่ให้ขยายวงมากกว่านี้ และไม่ต้องมาพูดหรือทำอะไรที่ดูซอฟอ่อนนุ่มแบบที่ออกทีวีรวมการเฉพาะกิจในคืนเมื่อวานนี้ ควรสั่งการเด็ดขาดไปเลยว่า ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่ต้องออกมาจากบ้านเหมือนล็อกดาว์นอูฮั่น และ ควรจะต้องหยุดกรุงเทพบางส่วน semi-lockdown สัก 7 วันเพื่อดูผลของผู้ติดเชื้อ ถ้าทุกอย่างคลายตัวลง แล้วค่อยกลับไปสภาพเดิม แต่ถ้ามันมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สถานการณ์ดูเลวลง ก็จัดเต็มกรุงเทพ Full Lockdown ไปได้เลย ผมคิดว่าประชาชนเข้าใจในสิ่งนี้ดีพอสมควร ว่าต้องทำเพราะเราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ผมหวังว่าพรุ่งนี้ผมจะได้ยินข่าวคำสั่งหยุดกิจกรรมบางส่วนในกรุงเทพ ห้าง สถานบันเทิง สถานศึกษา ไว้สัก 7 วันเสียก่อน เรื่องนี้น่ากลัวกว่าที่คิดครับ และผมคิดว่าคนกรุงเทพเข้าใจถึงเหตุผลการทำ semi-lockdown ดี และจะให้ความร่วมมือเต็มที่ไม่ต่างกับครั้งก่อน
เวฟสองในครั้งนี้มันมาจากพวกพระยาจักรีขายชาติไม่กี่คน ที่เปิดประตูเมืองให้พวกอังวะบุกเข้าเผาเมือง ไม่ต่างกับเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ครั้งหน้าจับได้ต้องกุดหัวคาชายแดนอย่างเดียวเท่านั้น”
…………………..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง…
ติดเชื้อโควิดแค่เสียงระฆังเตือน จับตา7วันถ้าพบเพิ่มน่าห่วงแน่