วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlightติดเชื้อโควิดแค่เสียงระฆังเตือน จับตา7วันถ้าพบเพิ่มน่าห่วงแน่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ติดเชื้อโควิดแค่เสียงระฆังเตือน จับตา7วันถ้าพบเพิ่มน่าห่วงแน่

นักวิชาการอิสระเป็นห่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสมุทรสาคร เพราะอยู่ติดกับกรุงเทพ ชี้ 7 คนที่พบติดเชื้อ แค่เสียงระฆังเตือนก่อนเกิดเหตุใหญ่ ให้จับตา 7 วันอันตรายนับจากนี้ หากยังพบคนติดเชื้อเพิ่มอีก เหตุหลายประเทศที่ระบาดส่วนใหญ่พบในแรงงานที่อยู่กันแออัด

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.63 นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Pat Hemasuk ระบุว่า “ผมอ่านข่าวการติดเชื้อโควิด-19 ของตลาดกุ้งที่สมุทรสาครแล้ว เป็นห่วงกว่ากรณีเขาใหญ่มากครับ ทำให้ผมคิดต่อไปถึงช่วงสัปดาห์หน้าที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดและหยุดการระบาดให้ได้ เราจะต้องไม่แพ้ ถ้าทำงานหนักและทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างที่มีอยู่ตั้งแต่เวลานี้ ซึ่งเวลานี้รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบก็ทำงานกันหนักอยู่ไม่ใช่น้อยในช่วงวันที่ผ่านมา

ประการแรกเลย ที่ตรวจพบจำนวน 7 คน เป็นเพียงผู้เข้าถึงบริการทางการแพทย์เท่านั้น จำนวนที่พบถือว่าพบในพื้นที่เดียวกันมากพอสมควร จนทำให้นึกไปย้อนหลังถึงช่วงที่รับเชื้อมาในช่วงสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ก่อน ว่ามีการสัมผัสเชื้อมาแล้วมากเท่าไรในตลาดกุ้ง เพราะการกระจายตัวของคนที่เข้าไปสัมผัสนั้น มาจากพ่อค้าแม่ค้าจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องรับกุ้งไปขายต่อ และเกือบทั้งหมดคือคนที่ค้าขายอยู่ในตลาด ดังนั้นตลาดในจังหวัดใกล้เคียง อาจจะเป็นแหล่งแพร่เชื้ออันดับที่สองสามสี่ต่อไปเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน

ในข่าวที่ออกมาวันนี้ว่า หน่วยงานทางการแพทย์ที่รับผิดชอบในพื้นที่และส่วนกลาง มีการระดมกำลังตรวจแบบปูพรม ทั้งในพื้นตลาดและแหล่งอาศัยของแรงงานที่ใกล้เคียงจุดระบาดไปแล้ว รวมถึงมีการแจ้งเตือนให้หน่วยงานระดับจังหวัดมีการเฝ้าระวังในจังหวัดที่ใกล้เคียงด้วยเช่นกัน

ประการที่สอง แรงงานพม่าในจังหวัดมีหลายแสนคน คนเหล่านี้อยู่กันแบบแออัดพอสมควร และเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์เท่าคนไทย แรงงานเหล่านี้เจ็บป่วยนิดหน่อยก็ยังทำงานต่อไปได้ จะหยุดพักหรือไปหาหมอ ก็ต่อเมื่อทำงานไม่ไหวแล้วเท่านั้น ดังนั้นจะมีการแพร่เชื้อให้กับคนใกล้ชิดสูงมาก และผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าคนจำนวนหลายแสนคนนี้ ต้นเหตุจะมาจากพวกที่กลับมาจากบ้านแบบ ไปไม่แจ้ง กลับไม่แจ้ง เพื่อเลี่ยงปัญหาแรงงานตามกฎหมายหรือไม่

ประการที่สาม การระบาดในต่างประเทศนั้น มาจากกลุ่มใช้แรงงานที่อยู่กันแออัด หรือชุมชนแออัดเสียเป็นส่วนมาก เช่น ประเทศจีนในช่วงแรก อินเดีย ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย ที่ระบาดไม่หยุดในตอนนี้ หรือแม้แต่การระบาดในสิงคโปร์ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก็มาจากชุมชนผู้ใช้แรงงานทั้งสิ้น ดังนั้นถ้ามองความเป็นอยู่และความแออัดของกลุ่มผู้ใช้แรงงานพม่าในจังหวัดสมุทรสาครหลายแสนคนแล้ว น่ากังวลใจอยู่ไม่น้อย

ประการที่สี่ คือสิ่งที่ผมภาวนาไม่ให้เกิดขึ้น เมื่ออ่านข่าววันนี้คือ จังหวัดสมุทรสาครกับกรุงเทพนั้น ห่างกันเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงถ้ารถไม่ติด และมีทั้งคนกรุงเทพและคนสมุทรสาครเดินทางไปมา หรือมาทำงานประจำวันแบบไปกลับอยู่พอมากสมควร ถ้าสัปดาห์หน้าพบว่ามีการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อในสมุทรสาครมากกว่านี้ ก็มีโอกาสสูงว่าจะพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดใกล้เคียงด้วย ดังนั้นช่วงเจ็ดวันอันตรายที่ต้องจับตาดูคงต้องเกิดขึ้นแน่ในสัปดาห์หน้า

นั่นหมายถึงเศรษฐกิจที่ต้องชะงักไป เพราะจังหวัดสมุทรสาครคือจังหวัดที่ทำเงินจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลและอาหารสดติดอันดับจังหวัดทำเงิน หนึ่งในห้าของประเทศเลยก็ว่าได้ และถ้ายังหยุดการระบาดในพื้นที่ไม่อยู่ นั่นก็หมายถึงสภาวะคุมเข้มแบบเดือนเมษา พฤษภาที่ผ่านมา อาจจะต้องถูกนำมาใช้อีกครั้ง

ผมเป็นห่วงในเรื่องนี้มากกว่าปกติหลังอ่านข่าวก็เพราะ 7 คนที่ตรวจพบอาจจะเป็นเพียงเสียงระฆังเตือนก่อนเกิดเหตุใหญ่ก็เป็นไปได้

เครดิตภาพ EPA

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img