วันเสาร์, ธันวาคม 7, 2024
หน้าแรกEXCLUSIVEสั่งเชือด!!‘3 ป.ป.ช.-พล.ต.อ.-เซียนพระ’ พยานสำคัญ‘อดีตผวจ.’โต้ปล่อยเช่าพระ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สั่งเชือด!!‘3 ป.ป.ช.-พล.ต.อ.-เซียนพระ’ พยานสำคัญ‘อดีตผวจ.’โต้ปล่อยเช่าพระ

กรณีที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีพฤติกรรมช่วยเหลือ ตบแต่งบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน ของ “พล.ต.อ.คนดัง” เพื่อประกอบการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หลังมีชื่อเข้าไปพัวพันกับคดีเว็บพนันออนไลน์ ตามที่เคยรายงานไปแล้วนั้น

ต่อมา มีผู้เข้าร้องทุกข์ตำรวจ “บก.ปปป.” ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช. รวม 3 คน คือ “นาย ส.” ระดับผู้อำนวยการ / “นาย จ.” และ “นางสาว อ.” ว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 172 พ.ร.ป. ป.ป.ช. 2561

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตำรวจ ปปป. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้ง 3 รายดังกล่าว มีการกระทำผิดจริง

ที่สำคัญ นอกเหนือจาก เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้ง 3 รายแรกแล้ว ยังมีผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าวเพิ่มเติม 3 คน ประกอบด้วย

1.พล.ต.อ.คนดัง
2.พ.ต.ท. ลูกน้องของพล.ต.อ.
3.เซียนพระ ฉายา “เฮียอั๊ง เมืองชล”

ในฐานความผิดเป็นผู้ใช้หรือตัวการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. กรณีดำเนินการหรือสร้างพยานหลักฐานเท็จเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ “พล.ต.อ.นายนี้”

ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ส่งให้กับทาง ป.ป.ช. พิจารณาไต่สวน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 6 ราย ตามขั้นตอนกฎหมายของ ป.ป.ช. ต่อไป

พยานสำคัญ “อดีตผู้ว่าฯ” โต้ปล่อยเช่าพระ “พล.ต.อ.”

สำหรับพยานหลักฐานสำคัญที่ทำให้เชื่อว่า มีการกุเรื่องสร้างหลักฐานสำแดงทรัพย์สินเท็จ จนนำมาสู่การตรวจสอบนั้น คือ คำให้การของพยานสำคัญ เป็น “อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดทางภาคตะวันออก”

พยานคนดังกล่าวให้การว่า รู้จักกับ “เซียนอั๊ง เมืองชลฯ” เนื่องจากเคยเช่าพระกันในอดีต แต่ไม่ถึงกับสนิทสนมกัน กระทั่ง 2-3 เดือน ก่อนหน้านี้่ “เซียนอั๊ง” ได้ติดต่อมาหาพร้อมนัดพบที่ร้านอาหาร ข้างห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า

เมื่อ “เซียนอั๊ง” มาถึงก็ได้อ้างพยานคนดังกล่าวว่า “พล.ต.อ.คนดัง” อยากรู้จักและอยากเลี้ยงอาหาร เพราะต้องการขอ “เช่าพระ” แต่ได้ตอบปฏิเสธไป เพราะต้องการเก็บไว้บูชาเอง จึงไม่ได้มีการพบเจอ หรือเคยติดต่อเช่าพระกับ “พล.ต.อ.นายนี้” ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

อีกทั้งพระจำนวน 10 องค์ มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ที่มีการกล่าวอ้างว่า เช่ามาจากพยานคนดังกล่าวนั้น ทางพยานยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยครอบครองพระเครื่อง 10 องค์ดังกล่าวแต่อย่างใด

แฉผลประโยชน์ต่างตอบแทน “บิ๊ก ตร.-ป.ป.ช.”

นอกจากนี้ จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังพบหลักฐานสำคัญอีกอย่าง เป็นความเชื่อมโยงระหว่าง “เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.รายหนึ่ง” กับ “พ.ต.ท.” หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา

หลังพบว่า เคยให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกัน ในการประสานเข้าใช้บริการโรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงการนัดหมายเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.คนดังกล่าว ให้ถ้อยคำต่อพนักงานไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. เกี่ยวกับข้อกล่าวหาวีซ่าตรวจลงตรา สมัย “พล.ต.อ.” ควบคุมดูแลหน่วยงาน

จากการตรวจสอบประวัติของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.คนดังกล่าว ยังพบว่าเป็นหนึ่งในอนุกรรมการฯ ที่มีความเห็นเสนอยุติเรื่องร้องเรียน “พล.ต.อ.” และพวก ในคดีเก็บส่วยคาราโอเกะในอดีต

และที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เอง ยังมี การฝากฝัง “ตำรวจระดับสารวัตร” ถึง “ผู้กำกับการ” กับ “พล.ต.อ.คนดังกล่าว” รวมทั้งฝากคนใกล้ชิด เข้าเรียนหลักสูตร ตำรวจ กอศ. รุ่นที่ 49 เป็นต้น

ต้องจับตาว่าหลังจากคดีนี้ จะส่งผลกับ “พล.ต.อ.คนดัง” อย่างไร เพราะยังมีเรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สิน / การซื้อปืน และทองทำแท่ง ที่จะถูกตรวจสอบตามมา ว่าร่ำรวยผิดปรกติอีกหรือไม่

………..

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img