“หมอชลน่าน” ขอบคุณ “บิ๊กตู่” ประกาศชัดไปอยู่ “รวมไทยสร้างชาติ” พรรคอื่นจะได้วางแผนต่อสู้ทางนโยบายต่อ ประชาชนจะได้ตัดสินใจ โวลั่นพท.ชูแลนด์สไลด์สกัด “สืบทอดอำนาจ”
วันที่ 24 ธ.ค.65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ประกาศเป็นแคนดิเดต นายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำให้ส.ส.ย้ายไปสมัครเข้าพรรค จนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ของพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ว่า จากข่าวที่ปรากฏทราบว่าจะมีส.ส.ไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ประมาณ 40 คน ส่วนใหญ่มาจากพรรคจิ๋วและพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีการไปรับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ กรณีไม่มีการยุบสภา วันที่ 6 ก.พ.66 จะเป็นวันสุดท้ายที่ส.ส.จะลาออกเพื่อไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ หากหลังจากวันที่ 7 ก.พ.ไปแล้วจะเกิน 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ส่วนกรณียุบสภา ส.ส.สามารถลาออกในวันยุบสภา และไปสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน
เมื่อถามว่าจะเป็นคู่แข่งกับพรรคเพื่อไทย หรือไมา นพ.ชลน่าน กล่าวว่าเรามองทุกพรรคเป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะพรรคเล็ก พรรคใหญ่ เพราะแข่งกันเป็นเขต และแข่งภาพใหญ่ในส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งไม่หนักใจเท่าไหร่ เราอยู่บนหลักการที่ต้องรู้จักตัวเองให้มากที่สุดว่ามีจุดแข็งจุดอ่อนอะไร คู่แข่งเป็นอย่างไรและโอกาสตัวเองเป็นอย่างไร เมื่อเรารู้ตัวเองและมองคู่แข่งออก เราคิดว่าว่าที่ผู้สมัครส.ส. เรามีความเข้มแข็งพอที่จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะสามารถ มีส.ส.ได้เกิน 25 เสียงเพื่อเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ แล้ว คงต้องตั้งเป้าอย่างนั้น และจะต้องเสาะแสวงหาวิธีการที่จะทำให้ถึงเป้าหมายให้ได้ เราเองจะไม่ดูแคลน ส่วนจะทำได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชน ตนขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรค รทสช. เพราะพี่น้องประชาชนจะได้มีข้อพิจารณา และตัดสินว่าจะให้พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อหรือไม่ส่วนพรรคการเมืองต่างๆ ก็จะได้วางแนวทางการต่อสู้ในสนามการเมืองให้เป็นไปตามกติกา ต่างคนต่างแข่งขันกันด้วยนโยบายและการเข้าหาพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทย มีความชัดเจนในการรณรงค์หาเสียง เพราะจะได้บอกว่าถ้าพี่น้องประชาชนที่ไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจต่อไป ให้มาเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์
เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้เปรียบ จากความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในมุมการเมืองผู้ที่เป็นรัฐบาลมีความได้เปรียบอยู่แล้วโดยธรรมชาติ หน้าที่อำนาจบางเรื่องมีกฎหมายที่เปิดโอกาสให้สามารถทำได้ด้วย เช่นการดูแลพี่น้องประชาชนในภาวะวิกฤต การเสนอให้ทำตามหน้าที่เพื่อดูแลประชาชนให้เต็มที่ ขณะที่พรรคอื่นทำไม่ได้ และขณะนี้ยังมีข้อกำหนด 180 วันเรื่องการหาเสียง การมีอำนาจรัฐ ก็จะเป็นโครงข่ายที่เอื้ออำนวยต่อความได้เปรียบทางการเมืองที่อยู่นอกเหนืออำนาจและหน้าที่การเป็นรัฐบาลยกตัวอย่างการลงพื้นที่เยี่ยมน้ำท่วมก็ปรากฏชัดว่ามีแต่โครงข่านของพรรค รทสช. ที่ไปลงพื้นที่ด้วย แต่เราต้องบอกไปยังผู้ที่มีอำนาจว่า ท่านจะต้องใช้อำนาจหน้าที่ให้ชอบด้วยกฎหมาย เพราะพี่น้องประชาชนและทุกพรรคการเมืองมองอยู่ ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรมกระแสตีกลับจะไปอยู่ที่ผู้ที่ใช้อำนาจในทางมิชอบนั้นและสามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ด้วย