“ชลน่าน” มั่นใจ ‘บิ๊กตู่’ หน้าไม่บางพอชิงยุบสภาฯ หากพ.ร.ก.อุ้มหายฯ ไม่ผ่านสภาฯ เตรียมร้องศาลสกัดประชุมอังคารนี้ ชี้ครม.ต้องเรียก ส.ว. ประชุมวิสามัญ
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 66 ที่ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 และ พ.ศ.2566 ในวันที่ 28 ก.พ.ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติไม่อนุมัติ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว เพราะเป็นการออกพ.ร.ก.ที่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ตลอดจนละเมิดสิทธิประชาชนที่ถูกจับกุมคุมขังอยู่ ซึ่งขาดการป้องกันการซ้อมทรมานและอุ้มหาย ตลอดระยะเวลาที่สูญเสียไป อีก 7-8 เดือน โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้งอันตรายมาก
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่ระหว่างการสังเกตว่าเสียงข้างมากจะเห็นอย่างไร เพราะแม้พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เป็นเสียงข้างน้อยจะไม่อนุมัติ แต่หากเสียงข้างมากอนุมัติพ.ร.ก.ก็ยังบังคับใช้ได้ ดังนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเตรียมการสังเกตเสียงข้างมาก หากมีแนวโน้มจะผ่านการอนุมัติ พรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.ก.ดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการอนุมัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ทั้งนั้น เรามีข้อสังเกตว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แอบทำคำร้องไว้อีกฉบับที่ชนกับคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย จึงกำลังดูเกมตรงนี้ว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคิดอะไร หากคิดตรงกันกับส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ไม่เป็นอะไร
เมื่อถามว่า หากพ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่ผ่านการอนุมัติ จะนำไปสู่ความรับผิดชอบของรัฐบาลในการลาออก จะเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีชิงยุบสภาฯหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เขาคงหน้าไม่บางพอ จริงอยู่ว่า การไม่อนุมัติพ.ร.ก.เป็นเรื่องใหญ่ และรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ ในอดีตมีรัฐบาลลาออกเยอะมาก การแสดงความรับผิดชอบผ่านการลาออกหรือยุบสภาฯ ก็ถือเป็นจังหวะเวลาช่วงเหมาะพอดี เขาอาจไปยุบสภาฯ ตามกำหนดวันที่ 15 มี.ค.นี้ได้ มันไม่จำเป็นและไม่มีผลอะไรเลย