“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ชี้มีกลิ่นทะแม่งๆ หลังพบความบังเอิญหลายอย่างเกิดขึ้นในเวลานี้ ซัดความเคลื่อนไหวของ “มะกัน” ทำไมต้องโกหก เหมือนตั้งใจเปิดประเด็น เตือนวัฒนธรรมการเมืองไทยไม่เหมือนสหรัฐ ถ้าอยากฟื้นฟูความสัมพันธ์ต้องไม่แทรกแซง และไม่หนุนกลุ่มโค่นล้มสถาบัน จ้องแก้ ม.112
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.64 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า…“กลิ่นทะแม่งๆ” สัญชาตญาณมันบอกว่า มีกลิ่นแปลกๆ เกิดขึ้น มีความบังเอิญหลายอย่างเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันไปหมด แรงขับเคลื่อนของม็อบสามนิ้วอ่อนแรง แกนนำมีความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน การสนับสนุนจากมวลชนลดลงชอบใช้ความรุนแรง ชุมนุมเกือบทุกครั้งมักสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินทางราชการ กำลังอยู่ในช่วงไปไม่เป็น การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาพร้อมๆ กับการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ของนักการเมืองฝ่ายค้าน
เสียงคุยทางโทรศัพท์ระหว่างที่ปรึกษาความมั่นคงของผู้นำสหรัฐกับเลขาสภาความมั่นคง เว็บไซต์ของทำเนียบขาวรายงานอ้างว่า ที่ปรึกษาความมั่นคงของผู้นำอเมริกัน แสดงความห่วงใยต่อการดำเนินคดีตามมาตรา 112 แต่เลขาฯสมช. ปฏิเสธว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย ทำไมทำเนียบขาวต้องโกหก เหมือนตั้งใจเปิดประเด็น
นายเจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงของประธานาธิบดีอเมริกันมีประวัติเป็นพวกสายเหยี่ยว ชอบใช้ความรุนแรงในการแทรกแซงประเทศอื่นเพื่อผลประโยชน์อเมริกัน สอดคล้องกับท่าทีของผู้แทนอียูประจำประเทศไทยมีความเคลื่อนไหวในลักษณะรับลูกเหมือนเป็นเอ็นจีโอ แสดงความห่วงใยต่อประเด็นมาตรา 112
อยากเตือนสติฝรั่งตาน้ำข้าวว่า วัฒนธรรมทางการเมืองของไทยเป็นแบบไทย สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักที่คนไทยให้ความจงรักภักดี และมาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ใช้ปกป้องพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกันกับที่สหรัฐมีกฎหมายปกป้องประธานาธิบดี ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่แตกต่างกัน หากสหรัฐคาดหวังที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับไทยให้ดีขึ้น ต้องไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทย ไม่สนับสนุนกลุ่มที่จะโค่นล้มสถาบันฯ ไม่คัดค้านมาตรา 112