“กิตติศักดิ์” ยันไม่มีธงเลือกนายกฯ แนะคุณสมบัติต้องจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ไม่ชักศึกเข้าบ้าน ทำให้ม็อบลงถนน มั่นใจส.ว.มีวุฒิภาวะถึงเวลาตัดสินใจได้
วันที่ 15 พ.ค.2566 นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลว่า ขอรอดูให้พรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนของส.ว.ถ้าตั้งรัฐบาลได้แล้วถึงจะเข้าสู่กระบวนการเลือกประธานสภาฯและเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาไม่มีหน้าที่ แต่เป็นเรื่องของสภาฯ ในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
เมื่อถามว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งรัฐบาล 309 เสียง นานกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ต้องรอให้ถึงเวลาพิจารณาก่อน เพราะขั้นแรก ส.ส ต้องไปรวมให้ได้มากกว่า 250 เสียง แต่เมื่อถึงขั้นตอนการเลือกนายกฯตามมาตรา 272 ส.ว.จะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯคือจะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น จงรักภักดีต่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ถ้าใครมีคุณสมบัติตรงนี้ส.ว.จะพิจารณา ซึ่งส.ว.ทุกคนมีคุณวุฒิวัยวุฒิที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองแต่ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลหรือองค์กรอิสระต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติทุกคนทุกองค์กร และทิศทางของการโหวตส่วนตัวมองว่าที่ผ่านมาเกือบจะเอกฉันท์แน่นอนอาจมีบางส่วนเห็นต่างงดออกเสียงหรือโดดไปฝ่ายตรงข้ามก็เคยมีเช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีทั้งส.ว.เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าเป็นรัฐบาลพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทยและขั้วฝ่ายค้านเดิมก็ขอให้รอถึงวันนั้นจึงจะพูดได้ เพราะพูดไปก่อนยังไม่ถึงเวลาไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่เหมาะสม แล้วก็เป็นไปได้หมดถ้าเกิดเลือกรอบแรกแล้วไม่ผ่าน เช่นคุณสมบัติไม่ผ่านก็อาจมีการงดออกเสียง พร้อมยกตังอย่างว่ากกต. กำลังพิจารณาเรื่องร้องเรียนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งต้องรอดูผลเป็นองค์ประกอบ และดูหลายๆ ปัจจัย
เมื่อถามว่าส.ว.อาจถูกตำหนิ และถูกมองว่าถ้าไม่เลือกฝ่ายที่ได้คะแนนจากประชาชน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ส.ว.ไม่มีธง แต่เรามองไปไกลว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร เลือกใครมีปัญหาหรือไม่ ถ้าเป็นการชักศึกเข้าบ้านมีความขัดแย้ง หรือทำให้มีการเดินลงถนนอีกหรือไม่ ต้องมองหลายมิติ จึงขอให้ถึงเวลานั้นก่อนแล้วส.ว.จะตัดสินใจเพื่อบ้านเพื่อเมือง