“แรมโบ้” หอบหลักฐานแฉขบวนการตบทรัพย์ ลั่นเคยโดนทำแบบเดียวกันจนน้ำตาตกใน และโดนคุกคามหนักจนไม่ได้หลับได้นอน ย้ำไม่ได้เปิดหน้าชน แค่ต้องการเอาคนผิดมาลงโทษ
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” เดินทางมาที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ เพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหลังจากเคยโดน “นาย อ.” ที่อยู่ในแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ขู่กรรโชกทรัพย์มูลค่าหลายแสนบาท มาตั้งแต่ปี 65 ต่อเนื่องปี 66 โดยมีพฤติการณ์ใช้ตัวละครสลับหมุนเวียนร้องเรียนตนเอง
โดยนายเสกสกล บอกว่า เรื่องที่ตนโดนและไปแจ้งความ เคยออกข่าวไปแล้วหลายครั้ง และตนก็เคยแถลงข่าวตอบโต้ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าตนโดนคุกคามอย่างไร และตนเคยบอกคนที่มาเล่นงานตนว่า ให้ระวังถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่ก็ไม่มีใครฟัง และข่าวก็เงียบไป ส่วนนอกจาก “นาย อ.” แล้ว “นาย ศ.” เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ด้วยหรือไม่นั้น ในช่วงนั้น “นาย ศ.” ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ส่วน “นาย จ.” เกี่ยวหรือไม่ ขอให้ข้อมูลในชั้นสอบสวนก่อน พร้อมบอกว่า นอกจาก “นาย อ.” เรื่องที่ตนเองถูกร้องเรียนนั้น มีตัวละคร “ว.” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
นายเสกสกล กล่าวว่า ส่วนหลักฐานที่จะนำมาร้องเรียนวันนี้ มีทั้งคลิปเสียง และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่ตนเองแจ้งความไว้ มีทั้งคดีกรรโชกทรัพย์ หมิ่นประมาท คุกคาม และแจ้งความเท็จ ระหว่างปี 65-66 รวม 6 ครั้ง วันนี้ตนเองไม่ได้ต้องการมาเปิดหน้าชน แต่ตนเองมาในฐานะผู้ถูกกระทำ และต้องการเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายเสกสกล บอกว่า ไม่เกี่ยวการเมือง เป็นเพียงการกรรโชกทรัพย์ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ถามว่า หากไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกร้องเรียน ทำไมต้องจ่ายเงิน นายเสกสกล บอกว่า ขอให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนก่อน
“ยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจที่ออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะอยากให้ผู้ที่กระทำความผิดถูกลงโทษตามกฎหมายเท่านั้น และต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีที่ยืนในสังคม เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสังคม และบ้านเมือง ซึ่งแม้ตนเป็นถึงที่ปรึกษาอดีตนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ยังถูกเล่นงานถึงขั้นน้ำตาตกใน”นายเสกสกล กล่าว
หลังให้สัมภาษณ์ นายเสกสกลได้นำเอกสารหลักฐานเข้าไปให้ข้อมูลกับรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและชุดสืบสวน โดยบอกว่า หลังพูดคุยกับตำรวจแล้ว จะมาเปิดเผยรายละเอียดที่ถูกตบทรัพย์ให้สื่อมวลชนรับทราบอีกครั้ง
