“เรืองไกร” ส่งนส.ร้อง ป.ป.ช. สอบใครเกี่ยวข้องข้าว 10 ปี มีความผิดฐานลักทรัพย์ หรือไม่ เหตุข้าวในอคส. เป็นของหลวง ชี้ผิดกม.อาญา แม้จำนวนไม่มาก
วันที่ 14 พ.ค. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ได้ติดตามข่าวการไปเปิดคลังเห็นข้าวหอมมะลิ ปี 2566/2567 และนำออกมาหุงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าหลายอันให้เป็นข้าวสุกแล้วแบ่งกินหลายคน พร้อมถ่ายคลิปโชว์ไว้เป็นหลักฐานและลงข่าวอย่างต่อเนื่องด้วย หลังจากรวบรวมข้อเท็จจริงมาหลายวันเพื่อจะทราบว่า มีใครร่วมกระทำการดังกล่าวบ้าง ในฐานะเคยอยู่ สตง. ตรวจสอบบัญชีรัฐวิสาหกิจ จากข้อเท็จจริงตามเฟซบุ๊ก ตามข่าว และตามคลิปต่าง ๆ ก็แปลกใจว่า การเอาข้าวสารซึ่งเป็นสินค้าคงเหลือในงบการเงินของ อคส. ทำได้อย่างไร และอาศัยหน้าที่และอำนาจใดในการนำข้าวสารของ อคส. ออกมาหุงกินและแบ่งตักใส่ถุงพลาสติกพร้อมเขียนฝากให้พิธีกรหลายรายนำไปหุงกินโชว์ออกในรายการอีกด้วย
นายเรืองไกร กล่าวว่า ข้าวสารของ อคส. ดังกล่าว ถือเป็นของหลวง ที่รอการประมูลขาย ดังนั้น การนำออกมาหุงเป็นข้าวสาร อาจเข้าข่ายทำให้สินค้าขาดไปจากบัญชีทั้งปริมาณและมูลค่าทางบัญชี แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่หากดูประมวลฎหมายอาญาและแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ก็มีประเด็นที่ควรตรวจสอบว่า การกระทำดังกล่าวจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 12 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อตรวจหาหลักฐานเบื้องต้น จะพบข้อเท็จจริงที่อยู่ในข่าว ในคลิป ในเฟซบุ๊ก จำนวนมาก อันเพียงพอแก่การนำข้อเท็จจริงไปเป็นพยานหลักฐานเพื่อส่งให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไปได้ว่า มีรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ พิธีกร รายใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวโดยเข้าข่ายเป็นความผิดอาญา มาตราต่าง ๆ หรือไม่ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีมีส่วนร่วมในการสนับสนุน หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ในวันนี้ ตนจึงส่งหนังสือไปถึง ป.ป.ช. ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่ามี รัฐมนตรี ข้าราชการ พิธีกร หรือผู้ใดที่เกี่ยวข้อง ที่มีการร่วมกันในลักษณะตัวการและผู้สนับสนุนซึ่งไม่มีหน้าที่และอำนาจในการนำข้าวสารของ อคส. ซึ่งเป็นของหลวงออกมาจากคลังได้โดยชอบ และยังนำมาหุงเป็นข้าวสุกและกินกับอาหาร เช่น กระเพรา ไข่เจียว เพื่อโชว์สื่อต่าง ๆ และยังมีภาพการนำข้าวสารมาตักใส่ถุงพลาสติกพร้อมเขียนด้วยลายมือลงชื่อรัฐมนตรีเพื่อให้นำไปฝากพิธีกรตามรายการต่าง ๆ อีกด้วย ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงควรตรวจสอบต่อไปว่า การนำข้าวสารของ อคส. ซึ่งเป็นของหลวงออกมาจากคลังนั้น จะเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 12 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือไม่ ความผิดฐานตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือไม่ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 6 ตัวการและผู้สนับสนุน หรือไม่ ความผิดฐานรับของโจร ตาม ป.อาญา มาตรา 357 ด้วย หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ที่บ้านตนเองยังมีข้าวหมอมะลิคัดพิเศษถุงละ 5 Kg ของจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสปิดสนิท เก็บมาประมาณ 2 ปี วางไว้ในบ้าน เมื่อเอาออกมาดูและถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์ประมาณ 1 นาทีในวันนี้ พบว่า ข้าวยังไม่เหลืองมาก มีมอดเยอะพอควรเดินไปมาน่ารักดี จึงน่าจะยังกินได้ ถ้าทางรัฐบาลอยากได้ไปเปรียบเทียบเป็นตัวอย่างกับข้าวสารของ อคส. ที่เก็บมา 10 ปี ขอให้รีบติดต่อมาเลย ตนจะเอาไปให้ด้วยตนเอง จะได้เห็นมอดตัวเป็น ๆ เดินเล่นอยู่ในถุงข้าวสาร