หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติประเมินสถานการณ์การเมืองไทย แม้กรอบ MOA กำหนดยุบสภาฯ ปลาย ม.ค. 69 แต่สถานการณ์จริงขึ้นอยู่กับความมั่นใจของรัฐบาล พร้อมชี้แนวทางแก้ปัญหาชายแดนและทุนเทาที่ผิดกฎหมาย หากมีโอกาสบริหาร ต้องออกกฎหมายใหม่เพื่อบ้านเมือง และเชิญชวนคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานการเมืองอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันว่า แม้รัฐบาลจะมีกำหนดยุบสภาฯ ตาม MOA ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ประกาศไว้ว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนม.ค. 2569 แต่สถานการณ์ทางการเมืองไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความมั่นใจทางการเมืองด้วย
นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ขณะนี้นายกฯ เริ่มไม่มั่นใจในการสนับสนุนจากพรรคประชาชน (ปชน.) โดยเฉพาะหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งหากความมั่นใจลดลง สถานการณ์จะรุมเร้าและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และมีเรื่องเกี่ยวโยงกับคนในภาครัฐบาลมากขึ้น ดังนั้น หากปล่อยให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วยุบสภาไม่ได้ อาจทำให้สถานการณ์ลำบากกว่าปัจจุบัน จึงมีโอกาสสูงที่อาจยุบสภาเร็วกว่ากำหนด
ในประเด็นชายแดน นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ต้องเด็ดขาดในการรักษาอธิปไตยไทยและป้องกันการหลบหนีเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านของผู้ก่อการร้าย เช่น การสร้างรั้วลวดหนามเพื่อควบคุมการเข้าออก จะช่วยให้ง่ายต่อการติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ด้านการแก้ไขปัญหาทุนเทาที่ผิดกฎหมาย หากพรรคมีโอกาสเข้าบริหาร ต้องปรับปรุงขบวนการทั้งหมด และออกกฎหมายใหม่เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องพิสูจน์ตัวเองและลงโทษผู้สนับสนุน
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังเชิญชวนคนรุ่นใหม่และผู้สนใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยย้ำว่า ต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน คือ มุ่งมั่นทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว






































