ตำรวจ ปอศ. แถลงคดี “นานา ไรบีนา” หลังเพื่อนสนิท 17 รายร้องถูกหลอกลงทุนกว่า 195 ล้านบาท พบสร้างโครงการเทียมตั้งแต่ปล่อยสินเชื่อ เทรดหุ้น ทำสนามบาส ไปจนถึงร้านอาหารต่างประเทศ ตำรวจตรวจยึดทรัพย์รวมราว 10 ล้านบาท ขยายผลสอบเส้นทางเงินและผู้เกี่ยวข้องทุกมิติ.
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเศรษฐกิจ (ปอศ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงที่มีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนสนิทของ นางไรบีนา อินทชัย หรือ “นานา” อายุ 45 ปี รวม 17 ราย เข้าแจ้งความเสียหายรวมกว่า 195 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ผู้เสียหายทยอยเข้าร้องทุกข์ในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หลังถูกชักชวนให้ลงทุนใน 4–5 ธุรกิจ ทั้งการปล่อยเงินกู้ การเทรดหุ้นโดยอุปโลกน์บุคคลขึ้นมา รวมถึงการทำสนามบาสเก็ตบอล และการร่วมลงทุนเปิดร้านอาหารระดับประเทศ ซึ่งปรากฏว่าไม่มีการลงทุนจริงแต่อย่างใด
หนึ่งในผู้เสียหายที่มีรายงานออกมาก่อนหน้า คือ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ซึ่งถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนร้านอาหารในสหรัฐอเมริกา มูลค่า 3 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลับไม่มีการดำเนินโครงการ
หลังพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้เสียหาย 17 ปาก ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเงิน จึงนำเสนอศาลขอออกหมายจับและหมายค้น ก่อนปฏิบัติการควบคุมตัวผู้ต้องหาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง อาทิ รถยนต์ กระเป๋าแบรนด์เนม ของสะสม Art toy 11 ชิ้น เครื่องเพชรประมาณ 50 ชิ้น เครื่องประดับและนาฬิกา รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ระบุว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น “นานา” ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอชี้แจงรายละเอียดในชั้นสอบสวน โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าการกู้ยืมเงินเช่นนี้เข้าข่ายผิดกฎหมาย และเชื่อว่าสามารถหาเงินมาชดใช้ผู้เสียหายได้
ทั้งนี้ ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ถือเป็น ความผิดมูลฐานฟอกเงิน ซึ่งตำรวจได้รายงานไปยังสำนักงาน ปปง. แล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้เป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนหรือหลังการกระทำความผิด โดยคดีมีพฤติการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2565
สำหรับ เวย์ ไทเทเนี่ยม หรือ นายปริญญา อินทชัย สามีของผู้ต้องหา ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้
ส่วนกรณีที่ทนายความเคยพาผู้ต้องหามาพบตำรวจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีการรับมอบตัวนั้น ผู้บังคับการ ปอศ. ชี้แจงว่า เหตุเกิดนอกเวลาราชการ และในขณะนั้นยังไม่มีหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัวได้



















