เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณี MOU กระทรวงดิจิทัลกับบริษัทสิงคโปร์ ยืนยันเป็นสักขีพยานตามขั้นตอนปกติ ไม่มีเอื้อประโยชน์ใด ๆ พร้อมเน้นการดำเนินงานปราบอาชญากรรมไซเบอร์เพื่อประเทศและประชาชน
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัทจากสิงคโปร์ ซึ่งได้ลงนามเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 โดยมีข้อพิรุธต่าง ๆ
นายประเสริฐกล่าวว่า ขณะปรากฏภาพร่วมกับนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี และนายเบน สมิธ ในพิธีลงนาม MOU นั้น ตนในฐานะรัฐมนตรีดีอี เป็นเพียงสักขีพยานตามปกติ ไม่เคยรู้จักนายเบนเป็นการส่วนตัว และไม่ได้มีส่วนในการประสานงานเชิญใครมาร่วมพิธี
เลขาธิการพรรคเพื่อไทยยังระบุว่า MOU ฉบับดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยสำนักงานปลัดกระทรวงดีอี กองการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้เนื้อหาของ MOU ไม่ได้มอบสิทธิพิเศษหรืออำนวยความสะดวกใด ๆ ให้เอกชน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายไทย และต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากไม่มีกฎหมายรองรับก็ไม่สามารถดำเนินการได้
นายประเสริฐเน้นย้ำว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนของกระทรวงดีอีมุ่งประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนหรือบุคคลใด ๆ ทั้งสิ้น
“ตลอดการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีดีอี ภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เราเป็นรัฐบาลชุดแรกที่ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง ผมมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่นี้เพื่อประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ทั้งด้านการปราบปราม การปรับปรุงกฎหมาย และการหานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์” นายประเสริฐกล่าว
