นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ผลประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุให้เลขาธิการ สมช. เป็นผู้แถลงแทน พร้อมยืนยันกรณีรถขนน้ำมันที่ด่านช่องเม็กมุ่งหน้าไป สปป.ลาว ไม่ใช่กัมพูชา ด้านประเด็นแรงกดดันจากนานาชาติ นายกฯ ย้ำไทยไม่เคยเปิดฉากยิงก่อน
เมื่อเวลา 10.42 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม โดยระบุเพียงว่า ต้องไปเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้เลขาธิการ สมช. เป็นผู้แถลงรายละเอียดแทน
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีกัมพูชาใช้เวทีระหว่างประเทศกดดันประเทศไทย แต่นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามดังกล่าว เช่นเดียวกับประเด็นการระงับการส่งน้ำมันไปยังกัมพูชา โดยย้ำเพียงว่าให้รอการแถลงจากเลขาธิการ สมช.
เมื่อถามถึงกรณีมีรถบรรทุกน้ำมันไปจอดรอที่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ว่าปลายทางจะไปประเทศใด นายกรัฐมนตรีตอบสั้นๆ ว่า “ไปลาว” พร้อมยืนยันว่า จากการตรวจสอบแล้วไม่ได้มีการเลี้ยวเข้าไปยังกัมพูชา และเมื่อถูกถามว่าจะต้องมีการสกัดกั้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากปลายทางเป็น สปป.ลาว ก็ไม่สามารถสกัดได้
ส่วนกระแสที่กัมพูชาพยายามใช้เวทีโลกโจมตีว่าไทยใช้อาวุธรุนแรง นายกรัฐมนตรีตอบโต้ว่า ให้ดูข้อเท็จจริงและเปรียบเทียบอาวุธ โดยระบุว่า เมื่อมีการยิงจรวด BM-21 เข้ามา ควรดูว่าใครเป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงมากกว่ากัน
ขณะที่กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์อ้างอิงถึงการใช้มาตรการทางภาษีกดดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง นายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถาม รวมถึงไม่ให้ความเห็นต่อประเด็นแรงกดดันจากนานาชาติ โดยระบุว่า “ไม่มีใครมากดดัน”
เมื่อถูกถามถึงท่าทีของจีนที่เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศหยุดยิง นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถาม และเมื่อถามย้ำถึงคำกล่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าสามารถหยุดสงครามได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเพียงว่า “ไปขอให้กัมพูชาหยุดยิงไทยสิ เพราะไทยไม่เคยยิงกัมพูชาก่อน”
