“ตู่”ฟาด”พท.”ฆ่าตัวตายสมบูรณ์ที่สุด หลังฉีกเอ็มโอยูถีบ ‘ก.ก.’เป็นฝ่ายค้าน

‘จตุพร’ฟาด‘’ฆ่าตัวตายสมบูรณ์ที่สุด  หลังฉีกเอ็มโอยูถีบ ‘ก้าวไกล’เป็นฝ่ายค้านเพราะเพื่อนไม่เอา  เชื่อถ้าไม่ดึง 2 พรรค ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เตือนจากนี้ม็อบเต็มถนน  

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยแถลงฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาล และผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ว่า คนเราพอเริ่มติดกระดุมเม็ดแรกผิด หลังจากนี้จะไม่มีวันถูกอีกเลย พรรคเพื่อไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกตลอดไป คือตั้งแต่ปรากฏการณ์ไทยรักไทย พลังประชาชน จนกระทั่งถึงพรรคเพื่อไทยในวันนี้ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งพรรคการเมืองที่ครองแชมป์มายาวนานและทำลายตัวเองในลักษณะอย่างนี้ ดังนั้นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะแถลงในการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 3 ส.ค.นี้  ทางนายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็เรียกร้องว่าต้องระบุให้ชัดว่าใครร่วมรัฐบาลบ้าง เพราะกรณีของพรรคก้าวไกลแถลงย้อนแย้งกับคำแถลงของพรรคเพื่อไทย ว่าเรียกร้องให้ก้าวไกลถอยเรื่อง 112 ซึ่งไม่อยู่ในเอ็มโอยูเดิม 8 พรรคอยู่แล้ว แต่เลขาธิการพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่อง 112 เพียงแต่เขาบอกว่าพรรคการเมืองอื่นและสว.ไม่เอาพรรคก้าวไกล 

นายจตุพร กล่าวว่า ดังนั้นพรรคการเมืองอื่นๆ ที่จะต้องแถลงกันในวันพรุ่งนี้ จะต้องมีพรรคการเมืองใดบ้างนอกเหนือจากพรรคที่มีชื่อปรากฏแล้ว จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือพลังประชารัฐหรือไม่ ถ้าไม่มีต้องใช้เสียงวุฒิสภา 110 กว่าเสียง ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะวุฒิสภาทั้งหมดมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ 3 ป.   การแถลงของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 3 ส.ค.จะเป็นการบอกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จหรือไม่ เพราะที่จะระบุว่าก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านร่วมกับรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ถ้าสูตรนี้บวก ลบ คูณ หาร อย่างไรก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ส่วนว่าจะจับมือเลยกับรวมไทยสร้างชาติพลังประชารัฐก็แค่ประกาศผลักก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน การชุมนุมก็เต็มพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยจะเป็นพื้นที่สำหรับการชุมนุมโดยเฉพาะ  

“ในวันที่ 4 ส.ค. ถ้าไม่มีรวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐอยู่ในนั้น จะไม่มีวันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จอย่างแน่นอน นี่ไม่นับประเด็นที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นัดแถลงในวันที่ 3 ส.ค. เรื่องลักษณะและการกระทำของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในเรื่องจริยธรรม และธรรมภิบาลที่เกี่ยวข้องกับภาษี จะสามารถตอบคำถามสังคมได้หรือไม่ รวมทั้งกรณี 112 ที่พรรคเพื่อไทยก็ประกาศจุดยืนไม่ได้ต่างจากพรรคก้าวไกลในการหาเสียงเลือกตั้ง จะโดยคำพูดของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช  แกนนำพรรคเพื่อไทย หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร  หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็พูดว่าแก้ ไม่ได้แตกต่างจากพรรคก้าวไกล แต่พรรคเพื่อไทยใช้วิธีการทำเนียนเสมือนหนึ่งว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรา 112 ทั้งที่ตัวเองก็ใช้เรื่องนี้ในการหาเสียงเลือกตั้งเหมือนกันการคิดจะจัดตั้งรัฐบาลด้วยวิธีแบบนี้มันไม่ง่าย เพราะต้องแลกด้วยความเสื่อมและความโสมม  ผมเชื่อว่าคนจะเริ่มเต็มท้องถนนตามลำดับในวันถัดจากนี้ไป แม้ว่าพยายามแต่งตัวจะหลีกเลี่ยงจังหวะรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ซึ่งจะหลีกไม่พ้น ”นายจตุพร กล่าว